2 เงื่อนไขสำคัญ กรณี”ผู้เอาประกันภัย” ขาดและต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่

การขาดและการต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่ มีความสำคัญต่อ “ผู้เอาประกันภัย” ที่ได้ทำการส่งเบี้ยประกันชีวิตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป  และสำคัญยิ่งกว่าเมื่อต่อมา ผู้เอาประกันภัย ได้ขาดส่งเบี้ยประกันชีวิต ส่งผลให้กรมธรรม์ของ “ผู้เอาประกันภัย” ขาดผล

ซึ่ง คุณพิชา  สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า การที่กรมธรรม์ประกันชีวิตขาดผล อาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุไม่ว่า  “ผู้เอาประกันภัย”  หลงลืมชำระเบี้ย หรือกรณี หลงลืมแล้วบริษัทได้ดำเนินการทำการชำระเบี้ยประกันภัยอัตโนมัติให้และชำระต่อเนื่องจนกระทั่งมูลค่าของกรมธรรม์นั้นสิ้นสุดลง ส่งผลให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับ 

ในกรณีนี้ “ผู้เอาประกันภัย” สามารถต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตขึ้นมาใหม่ได้ โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญคือ การขาดผลบังคับนั้น ไม่ควรขาดเกินกว่า 5 ปี 

 

วิธีการต่ออายุกรมธรรม์  สามารถทำได้ 2 รูปแบบ  ค่ือ

1.ชำระเบี้ยประกันภัยย้อนหลังพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ซึ่งบริษัทประกันชีวิตจะคำนวนบนพื้นฐานของ อัตราดอกเบี้ย ที่คิดคำนวน อัตราเบี้ยประกันภัย ให้แก่ ผู้เอาประกันภัย บวกด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 2   

2.เลื่อนวันที่มีผลบังคับกรมธรรม์ใหม่มาเป็นวันปัจจุบัน เบี้ยประกันภัยในวิธีนี้ ที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระ บริษัทจะคิดคำนวนบนพื้นฐานของอายุปัจจุบันของ ผู้เอาประกันภัย ณ วันปัจจุบัน และผู้เอาประกันภัยจะต้อง แถลงสุขภาพเพิ่มเติมและหากไม่ผ่านการพิจารณาบริษัทอาจสงวนสิทธิ์การต่ออายุกรมธรรม์นี้ได้

และนี่คือความสำคัญของการขาดและการต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่.

 

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน