สนุกสุดฟิน 10 ที่เที่ยวมหัศจรรย์@เมืองยโสธร
การตอบรับร่วมเดินทางมากับทริป “สะพายกล้องท่องเมืองยโส” ของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร คุณบุญธรรม เลิศสุขีเกษม และสายการบินไทยสมายล์ ครั้งนี้
เต็มไปด้วยเหล่าบรรดาตากล้องมืออาชีพที่มีจิตอาสามาร่วมกันถ่ายทอดความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆอย่างคึกคัก
ทำให้เราพลอยได้เที่ยวแบบเจาะลึกและสนุกสุดฟินใน 10 เส้นทางมหัศจรรย์@เมืองยโสไปด้วย
พวกเราออกเดินทางกันแต่เช้าด้วยสายการบินไทยสมายล์ อิ่มท้องอาหารเช้าบนเครื่องด้วย
เมนูสุขภาพ “ข้าวต้มปลาหมึกยัดไส้หมูเห็ดหอม+ปลาท่องโก๋นมข้นหวาน”
ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปลงที่สนามบินอุบลราชธานี ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
แล้วนั่งรถต่ออีกประมาณ 45 นาทีก็ถึงจุดหมายปลายทางที่จังหวัดยโสธร
ท่านผู้ว่าบุญธรรมเล่าให้ฟังว่า เมืองยโสธร เมืองเล็กสงบและเป็นเมืองเก่าแก่ในประวัติศาสตร์มีอายุมากกว่า 200 ปีใกล้ ๆ กับอายุของกรุงรัตนโกสินทร์ก็ว่าได้เมืองนี้สามารถเดินทาง เข้าจังหวัดมุกดาหารไปสปป.ลาว เข้าเมืองดานัง ประเทศเวียดนามและกลับกรุงเทพได้ ต้องบอกว่าเมืองยโส มีเสน่ห์หลายอย่างทั้งเรื่องเล่าในตำนานที่น่าสนใจมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี อาหารพื้นถิ่น วิถีชีวิตของผู้คนรวมถึงที่พักโรงแรม ร้านอาหารและเครื่องดื่มในแบบชิลชิล ชิคชิค เรียกว่าใครชอบเที่ยวแบบไหนตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนก็ฟินได้ในทุกช่วงเทศกาลจริงๆ
การจัดทริป “สะพายกล้องท่องเมืองยโส” ครั้งนี้ ก็เพราะอยากเชิญชวนทุกคนได้ลองเข้ามาเช็คอินที่นี่สักครั้งหนึ่ง
เพราะเชื่อว่าถ้าได้แวะมาเที่ยวเมืองแห่งความสุขที่สุดมาแล้วจะไม่ผิดหวังกลับไปอย่างแน่นอน
โดยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ใครมาแล้วต้องแวะคือ
1. มาลัยข้าวตอก หนึ่งเดียวในประเทศไทย ได้สืบทอดประเพณีมายาวนานนับร้อยปี สมัยก่อนร้อยดอกมณฑารพ
ซึ่งเป็นดอกไม้อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวน์ดึงส์ สวยงาม และมีกลิ่นหอมถวายเป็นพุทธบูชาพระพุทธเจ้าปัจจุบันได้ร้อยมาลัยข้าวตอกถวายแทน
ทุกปีเมืองยโสธรจะมีพิธีแห่มาลัยข้าวตอก ก่อนถึงวันมาฆะบูชา1 วัน หากใครเที่ยวนอกงานประเพณี ก็สามารถมาเที่ยวชมได้ที่ วัดหอก่อง ตำบลฟ้าหยาด
ทางจังหวัดได้จัดแสดงมาลัยข้าวตอกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและชมกัน และพอถึงรอบปีก็นำข้าวตอกที่แสดงโชว์นี้ไปเป็นอาหารปลาแล้วนำชุดใหม่มาแสดงแทน
มาลัยข้าวตอก ที่นี่ใช้ข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง มี 2 แบบคือ แบบข้อและแบบสายฝน แขวนโชว์บนพื้นที่ลานวัดสวยงามตระการตาเต็มพื้นที่
2.พระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระพุทธบาทยโสธรบ้านหนอกยาง ต.หัวเมือง
นอกจากมาเช็คอินที่แล้ว แนะนำให้กราบไหว้รอยพระพุทธบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน
และก่อนกลับไปลอดต้นพญาพอกที่สูงเทียมฟ้า ว่ากันว่าใครได้ลอดแล้วจะพบความโชคดี
3.วัดมหาธาตุ มีเจดีย์บรรจุอัฐิพระธาตุอานนท์อยู่ที่นี่แห่งเดียวในประเทศไทย
และมีพระพุทธบุษยรัตน์ยโสธร พระประจำเมืององค์ที่เล็กที่สุดในประเทศไทยมีขนาดหน้าตัก1.9 นิ้ว
4.วัดภูสูงสายธรรมยุติสาขาของวัดป่าวังน้ำทิพย์ ตั้งอยู่ในตำบลบุ่งค้า อำเภอเลิงนกทา เรียกว่าเป็นดินแดน “พุทธอุทยาน” ในแบบUnseen ไม่เหมือนใคร
มีสมเด็จพระพุทธเจ้าใหญ่ไตรโลกนาถให้นักท่องเที่ยวทุกคนขึ้นไปกราบไหว้
ส่วนใครชอบแบบแอ๊ดแวนเจอร์จะไม่พลาดที่จะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามบริเวณหน้าผาจุดสูงสุดของที่นี่
หรือใครชอบแบบ “อบรมปฏิบัติธรรม” จะได้สัมผัสบรรยากาศในแบบUNPLUG บนยอดเขาสูง เพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้าให้ มีให้แต่ “ความสงบ” จุดเริ่มต้นก่อนเกิด“ปัญญา”
ขอบคุณภาพจาก เพจ ช่างภาพขาลุย
5.วัดศรีธรรมาราม เป็นวัดที่สวยงามอีกวันหนึ่งของจังหวัดและมีพระพุทธรูปพระสุกประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นพระในตำนานแห่งลุ่มแม่น้ำโขง
ได้รับการเล่าขานต่อๆกันมาว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูป 3 พี่น้องคือพระเสริม พระสุก พระใส แห่งอาณาจักรล้านช้างในอดีตได้พลัดถิ่นมาอยู่แผ่นดินสยาม มีพระสุกประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้
6.โบสถ์ไม้คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสร้างด้วยไม้ทั้งหลังมีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ที่บ้านซ่งแย้
มีความสวยงามและคลาสสิกมาก ได้รับการจัดให้เป็นโบสถ์ Unseenของประเทศไทย
7.วิมานพญาแถนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองยโส ตั้งคู่กับพญานาคขนาดใหญ่ ที่ใครมาแล้วต้องไม่พลาดเที่ยวชมและถ่ายภาพกับพญาแถน
จะเลือกถ่ายภาพช่วงแสงแรกหรือแสงสุดท้ายของวันก็ได้ที่นี่จะสวยงามมากเหมาะแก่การมาพักผ่อนและเก็บภาพสวยๆกลับไป
สำหรับพญาแถนหรือพญาคันคากนี้มีสำคัญกับช่วงฤดูฝนของเมืองยโสในเชิงประวัติศาสตร์
8.เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ที่นี่มีบ้านไม้เก่าสวยงามหลายหลังมีอายุมากกว่า 200 ปี มีโรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง
หากใครที่ชอบตื่นเช้าสนใจมาเดินเล่นหรือปั่นจักรยานชมบรรยากาศชุมชนที่นี่ โดยเฉพาะแสงแรกยามเช้าที่นี่เงียบสงบมากให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีเลยทีเดียว
หรือจะชมแสงสุดท้ายของวันก็จะสวยงามหรือจะตักบาตรย้อนยุคในเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่าก็สามารถตักบาตรได้ช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ของทุกวัน
9.ธาตุก่องข้าวน้อย ที่แห่งนี้ตั้งอยู่บ้านตาดทอง ตำบลตาดทอง มีตำนานที่ทุกคนรู้จักดี
ตำนานต้นแบบการเตือนสติทางอารมณ์ทั้งเรื่องของการยั้งคิดและใช้เหตุผลไตร่ตรองก่อนจะตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
10.ชุมชนภูไทตั้งอยู่บ้านห้องแซง ตำบลห้องแซง ที่นี่มีผ้าภูไททอมือโดยชาวชุมชนภูไท
ลวดลายสวยงามเป็นงาน Handmadeทำเองตั้งแต่การปั่น ทอ ย้อมกระทั่งนำไปตัดเสื้อผ้าสวมใส่ได้
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปได้ มีลวดลายสวยงาม ไม่เพียงการเยี่ยมชมชุมชนภูไทและผลิตภัณฑ์ผ้าทอเท่านั้น
ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในอีกชุมชนหนึ่งคือ ชุมชนบ้านศรีฐาน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหมอนขิดในเมืองยโสธรอีกด้วย
11.อาหารพื้นถิ่นใครมาแล้วต้องกินนั่นคือ ลาบยโส ที่ปัจจุบันกระจายอยู่ทั่วประเทศโดยไม่ต้องมีค่าแฟรนไชส์ยังมีส้มตำปลาร้า ตำไทย ตำซั่ว รวมถึง ปลาน้ำจืดที่ทำได้หลากหลายเมนู ทั้งลาบ ต้มยำ ต้นแซ่บ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีหมูยอขึ้นชื่อของยโส แหนมหมูห่อปลาส้ม และที่ขาดไม่ได้คือ ผลไม้ คือ แตงโมผลไม้ขึ้นชื่อจังหวัดแม้ผลจะไม่ใหญ่โตและสีแดงจัดแต่ให้รสหวานกำลังดีไม่แหลมมาก
และอาหารหวาน ต้องลอดช่องกระทิสดหอมหวานกลิ่นใบเตยและกระทิ ใส่น้ำแข็งกินหอมเย็นชื่นใจ
12.ตลาดสดเช้าเป็นตลาดใหญ่ขายอาหารพื้นเมืองหลากหลาย สามารถเลือกซื้อกินได้ตามใจชอบทั้งไก่บ้านย่างไร้มัน ลาบยโส ฯลฯ
ผู้คนที่นี่ล้วนยิ้มแย้มแจ่มใจเป็นมิตรดูมีความสุข สามารถสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสด้วยตนเอง.
ที่มา : http://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=raveetawan
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
Blogger INNWhy Club : อยากเห็น…สังคมไทยวัยทำงาน…ใช้ชีวิตได้สมาร์ทช่วงวัยเกษียณ…มีสุขภาพกาย-ใจ-เงิน แข็งแรง… เริ่มวางแผนชีวิตด้วยการเก็บออมเงินอย่างถูกที่ถูกทางและมีวินัย…และหลังหยุดทำงานไปแล้ว…ยังมีเงินใช้อย่างเพียงพอไม่เป็นภาระลูกหลาน คนใกล้ชิด.