เทรนด์ ‘Bike Sharing’ จีนบูมสู่วัฒนธรรมการแชร์เซฟโลก

ด้วยสเกลของประชากรโลกที่เติบโตต่อเนื่องในทุกๆ ปี สวนทางกับทรัพยากรบนโลกที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ยิ่งสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นกับหลายๆ ประเทศยิ่งชวนให้ความร้อนกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้คนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือแม้แต่ ยุโรป อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ภาคธุรกิจต่างๆ ได้ปรับตัวไปอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็วยิ่งกว่า 3G  4G

ยกตัวอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบันมีธุรกิจที่กำลังมาแรง ออกแนวยึดมั่นในหลัก “วัฒนธรรมการแชร์”  ในหลายๆ ประเภท เช่น การแชร์รถยนต์ การแชร์ที่พักอาศัย และล่าสุดคือ การแชร์จักรยาน หรือที่เรียกว่า BikeSharing

อันที่จริงแล้วธุรกิจนี้เคยเกิดขึ้นบ้างแล้วในบางประเทศโซนยุโรป แต่ที่เกิดเป็นกระแสฮิตให้คนทั่วโลกต้องจับตามองอีกครั้งก็เพราะว่า เหล่า start up ธุรกิจ Bike Sharing จากจีน รุกตลาดหนักไปทั่วโลกไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่บุกตลาดโลกไปหลายประเทศ อย่าง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย อิสราเอล แม้กระทั่ง ไทยเองด้วยเช่นกัน

มีงานวิจัยจากหลายแห่งที่วิเคราะห์ว่า ความสำเร็จของธุรกิจ Bike Sharing ของจีน มีส่วนสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ วัฒนธรรมการแชร์ในภาคธุรกิจของจีนจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลมากที่สุด หากมองเรื่องมลพิษทางอากาศที่เผชิญอยู่ รัฐบาลจีนกำลังทำสงครามอย่างหนักกับปัญหานี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายของการสร้างสังคมที่มีความกินดีอยู่ดีรอบด้านในปี 2020 ซึ่งได้ถูกจัดเป็นยุทธศาตร์สำคัญลำดับต้นๆ พอๆ กับยุทธศาสตร์ One Belt One Road หรือที่จีนเรียกกันว่า “อิไต้อิลู่”

ระบบการทำงานของ Bike Sharing ของบริษัทจีนนั้นง่ายนิดเดียว มี 2 เจ้าตลาดสัญชาติจีนอย่าง “Mobike” และ “Ofo” ได้รับการพูดถึงหนาหู เพราะประสบความสำเร็จได้จากการที่ผันตัวเองมาจาก Start Up ทั้งสองค่ายนี้ต่างก็ใช้เทคโนโลยีในการเข้ามาแข่งขันในตลาด ทั้งกุญแจล็อกจักรยานอัจฉริยะ ที่จะเปิดระบบได้ต้องถูกสแกน QR Code  ก่อน ส่วนระบบการติดตามจักรยานทุกคันนั้น บริษัทมีการติดตั้งระบบ “GPS” เพื่อระบุตำแหน่งของจักรยานแบบ real-time ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปลดล็อกเพื่อใช้งานและจอดในจุดใดก็ได้ที่ต้องการ

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายงานวิจัยของจีนที่ระบุว่า Bike Sharing สามารถช่วยประหยัดเวลาของกลุ่มคนทำงานได้เฉลี่ย 8 นาทีต่อวัน และเวลาที่ประหยัดเพิ่มขึ้นนั้นยังช่วยเพิ่ม GDP หรือ รายได้มวลรวมของประเทศได้อีก 1.2 พันล้านหยวนทีเดียว ทั้งยังบรรลุเป้าหมายสูงสุดในเรื่องการลดระดับชั้นบรรยากาศที่เป็นอันตรายได้ด้วย โดยอ้างข้อมูลจากรายงานที่ชี้ว่า การใช้จักรยานสามารถลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้ถึง 225,600 ตัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศของจีน

เห็นแบบนี้แล้วจึงไม่น่าแปลกใจนัก หากเราจะเห็นธุรกิจ Bike Sharing ในทุกหนทุกแห่งบนโลกนี้ เพราะเทรนด์ “รักษ์โลก” นั้นยังเป็นที่สุดของโลกธุรกิจในยุคนี้ ไม่ใช้แค่การรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติก หรือการหันมาใช้จักรยานเท่านั้น แต่ธุรกิจอื่นๆ ยังมีแบบแผนดำเนินตามฟอร์ม “โลกสีขาว” หรือบ้างที่เรียกว่า “โลกสีเขียว” เดาได้ว่าภาวะโลกร้อนก็น่าจะบรรเทาลงได้มากทีเดียว.

Credit By : www.scmp.com

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....