งานมหกรรมหนังสือระดับโลกครั้งแรกของเมืองไทยกว่า 2 ล้านเล่ม
นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่งของเหล่าบรรดานักอ่านและไม่ใช่นักอ่านที่จะได้ไปร่วมเดินเที่ยวชมและหาซื้อหนังสือดีกว่า 2 ล้านเล่มในงาน ‘Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016’ หรือ งานมหกรรมหนังสือระดับโลกครั้งแรกของเมืองไทย ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 21 สิงหาคม 2559 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารฟอรั่ม หมายเลข 9 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
โดยเฉพาะพิเศษสุดซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน คือ การเปิดจำหน่ายหนังสือแบบ Non-stop 60 ชั่วโมงติดต่อกัน! ในช่วงสุดสัปดาห์ของการจัดงานคือ วันที่ 12 – 14 และ วันที่ 19 – 21 สิงหาคมนี้
ที่สำคัญในงานนี้ทางผู้จัดงาน คุณสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ ผู้อำนวยการ บริษัท เร๊ดดี้ทูรี๊ด จำกัด ผู้จัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 (บิ๊ก แบ๊ด วูล์ฟ บุ๊ค เซล) กล่าวว่า ได้รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก หลากหลายรูปแบบทุกประเภทหนังสือ จำนวนกว่า 2 ล้านเล่ม มาให้คนรักหนังสือได้เป็นเจ้าของในราคาลดพิเศษ 60 – 80% จากปก
รวมถึงหนังสือหายากรวมถึงตัวอย่างหนังสือ Limited Edition ที่ทั่วโลกมีเพียง 900 เล่มแต่นำเข้ามาแสดงในเมืองไทยและให้คนไทยที่รักหนังสือเป็นเจ้าของไม่เกิน 30 เล่มจากราคาจริงหลักแสนบาท เหลือเพียง 30,000 บาทและหนังสือพิมพ์เขียวจากภาพยนต์ชื่อดังเรื่อง STARWARS ที่มีอยู่ทั่วโลก 5,000 เล่มแต่นำเข้าไม่กี่เล่มเท่านั้น
มีคำถามว่าทำไมหนังสือดีต้องที่เมืองไทย…?
คุณสุรเชษฐ บอกว่า เป้าหมายหลักของการจัดงาน Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2016 ครั้งนี้ อยากให้คนไทยได้อ่านหนังสือดีๆจากทั่วทุกมุมโลก ที่ราคาไม่แพงและไม่เป็นหนังสือที่ล้าสมัย ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือ AEC ยิ่งอยากให้คนไทยได้ฝึกฝนทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อสร้างความคุ้นเคย
“…แต่เดิมผมก็ไม่ได้เก่งภาษาเลย แต่มาวันหนึ่งต้องไปศึกษาต่อยังต่างประเทศในระดับมัธยมปลาย ก็ได้ซื้หนังสือที่เกี่ยวกับความชอบของตัวเองคือ รถยนต์มาอ่าน เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด จากนั้นเริ่มค้นความหมายของคำศัพท์วันละคำ 2 คำทำแบบนี้อยู่บ่อยๆจนคุ้นเคย ผมจึงเชื่อว่า การเริ่มต้นอ่านหนังสือภาษาอังกฤษจากคนไม่เก่งภาษาก็สามารถช่วยให้เราเกิดการพัฒนาภาษาขึ้นมาได้ จึงอยากช่วยให้คนไทยที่ไม่ชอบหรืออยากฝึกฝนตัวเองได้ลองฝึกอ่านภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสำหรับการสื่อสารของคนทั่วโลกในปัจจุบันกัน…”
คุณสุรเชษฐ์ บอกว่า งานนี้มีความพิเศษคือ ได้นำหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมจากสำนักพิมพ์ดังทั่วโลก หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ชีวประวัติบุคคลสำคัญ นวนิยาย หนังสือเด็กและวรรณกรรม คู่มือทำอาหาร ประวัติศาสตร์ ศิลปะ-แฟชั่น ภาพถ่าย หนังสือเฉพาะทางทุกประเภท และอีกมาก กว่า 2 ล้านเล่ม มาจำหน่ายในราคาลดถึง 60 – 80% ทั้งยังเป็นโอกาสดีที่นักสะสมจะได้เป็นเจ้าของหนังสือหายากและหนังสือฉบับ Limited Edition ประเภทต่างๆ ที่มีเพียงไม่กี่เล่มในโลก
โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 21 สิงหาคม 2559 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานีอาคารฟอรั่ม หมายเลข 9 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. และที่พิเศษสุดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน คือจะมีการเปิดจำหน่ายแบบ Non-stop 60 ชั่วโมงติดต่อกัน! ในช่วงสุดสัปดาห์ของการจัดงานคือ วันที่ 12 – 14 และ วันที่ 19 – 21 สิงหาคมและผู้สนใจซื้อหนังสือเป็นจำนวนมากได้มีบริการส่งทางไปรษณีย์ให้ด้วย
นอกจากนี้ทางบริษัทจัดงานได้จัดตั้งโครงการ Red Readerhood (เร๊ด รี๊ดเดอร์ฮู๊ด) หรือหนูน้อยหมวกแดงเพื่อแบ่งปันหนังสือไปสู่วงกว้าง เปรียบเสมือนการช่วยกันแทนที่ในตะกร้าในมือของหนูน้อยหมวกแดงด้วยหนังสือที่จะนำไปสู่มือนักอ่านด้อยโอกาส เพื่อเป็นการตอบแทนสังคม โดยผู้ร่วมงานสามารถซื้อหนังสือภายในงานแล้วแจ้งความจำนงมอบเข้าโครงการฯ นอกจากนี้เรายังจะนำหนังสืออีก 1,000 เล่มขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงแจกจ่ายในโครงการตามพระราชดำริต่อไป
คุณสุรเชษฐ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf Book มีแรงบันดาลใจมากจากคุณแอนดรู แย๊ป (Mr.Andrew Yap) ผู้ก่อตั้งการจัดมหกรรมหนังสือที่ยิ่งใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ที่ได้มองเห็นปัญหาการขาดโอกาสด้านการอ่านและพัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย จึงตัดสินใจเดินทางไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆทั่วโลกเพื่อซื้อหนังสือที่มีคุณภาพ มาจัดงานเทศกาลหนังสือดีในราคาต่ำกว่าราคาปกถึง 80% โดยหวังจะเป็นจุดเล็กๆที่จะช่วยผลักดันให้ประชาชนที่ไม่ได้มีรายได้สูงนัก ได้เข้าถึงโอกาสในการศึกษาหาความรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ให้ก้าวทันโลกที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอย่างในยุคปัจจุบัน
ซึ่งจากปีแรกด้วยจำนวนหนังสือที่รวบรวมได้ 150,000 เล่ม ได้กลายเป็น 3,500,000 เล่มใน 6 ปีต่อมา และมีผู้เข้าชมงานเพื่อเลือกซื้อหนังสือไม่ต่ำกว่า 500,000 คนในปี 2558 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ จากการสนับสนุนของภาครัฐและเอกชนที่เห็นความสำคัญของการอ่าน ปัจจุบันงาน Big Bad Wolf ได้เติบโตจนกลายเป็นงานหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเมื่อนักอ่านตัวยงอย่างสุรเชษฐได้ไปสัมผัสบรรยากาศราวสวรรค์ของคนรักหนังสือเช่นนี้ จึงไม่รอช้าที่จะนำโอกาสดีๆมาถึงมือนักอ่านชาวไทยเช่นกัน
ดังนั้นคุณสุรเชษฐ์ จึงนำแนวคิดดังกล่าวมาจัดขึ้นในประเทศไทยเพราะมองเห็นว่า การอ่านคือประตูสู่ความคิดและจินตนาการกว้างไกล ที่ช่วยลับสมองและพัฒนาปัญญาให้คุณสื่อสารได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงมั่นใจว่า งานนี้จะช่วยเติมเต็มจินตนาการและขยายพื้นที่คลังความรู้ให้กับนักอ่านได้
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com