คปภ.นำภาคอุตฯทำกรมธรรม์ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัยในการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ปีการผลิต 2561/62 สำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) ตามคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 อนุมัติให้ดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ และอนุมัติกรอบวงเงินตามความเห็นของสำนักงบประมาณ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน จากกิจกรรมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงฤดูนาปรัง และให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีเสถียรภาพในการผลิตสินค้า ลดการพึ่งพาจากภายนอกประเทศ โดยใช้การประกันภัยเป็นหนึ่งในมาตรการจูงใจเกษตรกร มีเป้าหมายและพื้นที่ดำเนินการในพื้นที่ปลูกข้าวในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานที่มีความเหมาะสม รวมพื้นที่ 2 ล้านไร่ ใน 33 จังหวัด

โดยข้อสรุปในเบื้องต้น จะให้ความคุ้มครองตามแนวทางเดียวกับกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี สำหรับค่าสินไหมทดแทนกำหนดไว้ 1,500 บาทต่อไร่ ส่วนความเสียหายจากน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ และไฟไหม้ ยกเว้นความเสียหายจากศัตรูพืชและโรคระบาด ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 750 บาทต่อไร่ โดยเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 59 บาท (ไม่รวมอาการแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งรวมแล้วจำนวน 65 บาทต่อไร่ และขณะนี้มีบริษัทประกันภัยพร้อมเข้าร่วมโครงการ 11 บริษัท ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด(มหาชน) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันส์ จำกัด สาขาประเทศไทย บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ ในวันที่ 8 ตุลาคม 2561 สำนักงานคปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย จะเข้าร่วมประชุมชี้แจงต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เนื่องจากคณะรัฐมนตรีเห็นว่าการประกันความเสี่ยงให้กับเกษตรกรเมื่อประสบภัยพิบัติ ยังขาดความชัดเจนของการประเมินความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการประกันภัยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเกษตรกรผู้เอาประกันภัย จำนวนของพื้นที่การเพาะปลูก ประเภทของภัยที่จะคุ้มครอง อัตราเบี้ยประกันภัย วงเงินความคุ้มครอง และความซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น

โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อเกษตรกร ดังนั้นหลังจากที่โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (นบขพ.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบแล้ว สำนักงาน คปภ. จะเร่งขับเคลื่อนโครงการนี้ทันที พร้อมหวังเป็นอย่างยิ่งให้ระบบประกันภัยมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิต และยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรไทย และพร้อมจัดทำสื่อความรู้โดยเฉพาะในรูปแบบ Application เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่ายและทั่วถึงต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th หรือ กลุ่มงานสื่อสารองค์กร โทรศัพท์ 02-515-3998-9 ต่อ 8307 โทรสาร 02-513-1437 http://www.facebook.com/PROIC2012

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน