คปภ. แจงรถทัวร์กรุงเทพ-มุกดาหารตกข้างทาง ได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัย
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่นรายงานความคืบหน้าล่าสุดหลังเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพ-มุกดาหาร ของบริษัทอาม่าทัวร์ พลิกตะแคงตกข้างทาง ที่บริเวณปากทางบ้านโคกลี่ จ.มหาสารคาม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับรับบาดเจ็บทั้งสิ้น 48 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 4 ราย นั้น รถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2559 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีได้รับบาดเจ็บ รายละไม่เกิน 80,000 บาท ในกรณีพักรักษาตัวในสถานพยาบาล จะได้รับค่าชดเชยรายวันๆ ละ 200 บาท แต่ไม่เกิน 20 วัน
และมีการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มความคุ้มครองวันที่ 13 มิถุนายน 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ซึ่งจะให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรณีความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัย ความคุ้มครอง 300,000 บาทต่อคน แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน ความคุ้มครอง 600,000 บาทต่อครั้ง
นอกจากนี้ พบว่ามีการซื้อความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายเป็นกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร 500,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน และการประกันตัวผู้ขับขี่ ความคุ้มครอง 500,000 บาท
ดร.สุทธิพลกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสำนักงาน คปภ. ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้บาดเจ็บได้มีการทำประกันชีวิต และประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่ามีการทำประกันภัยไว้ สำนักงาน คปภ. จะประสานงานให้บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนนี้อาจมีฝนตกหนักทำให้ถนนลื่น จึงมักเกิดอุบัติเหตุจากรถขึ้นบ่อยครั้ง จึงขอฝากเตือนประชาชนผู้ใช้รถทุกคน โดยเฉพาะเจ้าของกิจการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งต้องรับผิดชอบผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ควรกำชับให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่สำคัญควรตรวจสอบวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตลอดเวลา ซึ่งหากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) หมดอายุนอกจากจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ยังต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะต้องการความคุ้มครองเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถทำประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มเติมได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com