SCB เตรียมคิกออฟเปิดตัว SCB Protect โบรกเกอร์ครบวงจร “ประกันชีวิต-วินาศภัย” Q3/63

SCB เตรียมคิกออฟเปิดตัว “ไทยพาณิชย์ โพรเทค” โบรกเกอร์ครบวงจร “ชีวิต-วินาศภัย” Q3/63 วาง 3 ช่องทางหลัก เจาะตลาดแมสเสริมแบงก์แอสชัวร์รันส์  ประเดิม Protection Consultant  500 คนปีนี้ลุยขยาย  1 ตำบล 1 คนทั่วไทย หวังชิมลางยอดขายปี 64 แตะ 1,000 ล้านบ. ด้วยผลิตภัณฑ์เด่นจาก “FWD-SCB Life – เทเวศประกันภัย” 

นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งให้ภาพรวมธุรกิจประกันในปีนี้คาดว่าน่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอย่างไรก็ดี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างมากจากผลกระทบของการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ และการวางแผนการเงิน ทำให้ปัจจุบันความต้องการด้านความคุ้มครองได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยวิสัยทัศน์ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่จะเป็น ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุดประกอบกับความตั้งใจที่จะสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับสังคมไทยในทุกระดับเพื่อให้สามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ธนาคารจึงได้ตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยอย่างเต็มรูปแบบผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด โดยเล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันภัย เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินพื้นฐานที่ทุกครอบครัวควรจะมีเพื่อปกป้องคุ้มครองให้คนไทยพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่างๆในชีวิตได้ด้วยตนเองและประเทศไทยยังมีช่องว่างในเรื่องความคุ้มครองอยู่อีกมาก

ธนาคารให้ความสำคัญและตั้งใจที่จะให้การบริการเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกค้าได้ value มากกว่าแค่การทำประกันซึ่งเราเริ่มในบางส่วนแล้วเช่น health eco system ที่จะมีบริการอื่นๆ ตามมา ขณะนี้บนฐานลูกค้าทั้งหมด 16 ล้านคน พบว่าลูกค้ากลุ่มแมสของธนาคารมีประกันเพียง 3% ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการตั้งบริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค ขึ้น ซึ่งไทยพาณิชย์ โพรเทค จะเป็นตัวขับเคลื่อนในการขยายตลาดแมสของธนาคาร ด้วยความเชื่อมั่นในระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลที่ทันสมัยประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) ที่ประจำอยู่ในแต่ละพื้นที่ซึ่งได้รับการอบรมเป็นอย่างดีจะทำให้ไทยพาณิชย์ โพรเทค สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงใจด้วยผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่หลากหลาย เน้นความคุ้มค่า พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่รวดเร็วและเข้าถึงง่าย ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและความพึงพอใจจากการบริการของไทยพาณิชย์ โพรเทค”

โดยบริษัทจะเน้นการนำเสนอความคุ้มครองผ่าน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการหลักคือ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันทรัพย์สิน และประกันออมทรัพย์ ที่คุ้มครองครอบคลุมทุกช่วงเวลาตั้งแต่การหารายได้ การใช้จ่าย การออมเงิน และการส่งต่อเงินให้กับคนที่เราห่วงใย เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต ด้วย 3 ช่องทางหลัก คือ 1.Protection Consultant   2.Digita] 3.Tele-Service 

บริษัทตั้งเป้าที่จะมี Protection Consultant ให้ได้ตำบลละ 1 คนทั่วประเทศ ซึ่งการที่มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนท้องถิ่น จะทำให้สามารถเข้าใจปัญหาและอุปสรรคของคนในพื้นที่ โดยหน้าที่หลักของ Protection Consultant คือ นำเสนอแผนความคุ้มครองด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัยให้ลูกค้า และให้บริการลูกค้าหลังการขายอย่างใส่ใจ ทั้งนี้ Protection Consultant ถือเป็นช่องทางหลักของไทยพาณิชย์ โพรเทค นอกจากนี้เรายังมีช่องทางอื่นๆ อาทิ ดิจิทัล และเทเลเซลส์

ในวันที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน เรากำลังจะจ้างคนจำนวนมาก โดยบริษัทจะเตรียมเรื่องการอบรม การพาไปสอบใบอนุญาตนายหน้าประกัน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความรู้ให้กับทีมงานของเราอยู่ตลอด เพื่อให้คงความสามารถในการตอบโจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งเราตั้งเป้าที่จะมี Protection Consultant อย่างน้อย 500 คนในปีนี้ โดยหวังผลทำยอดขายปี 2564 ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์พันธมิตรหลักประกันชีวิตจาก บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต  และบมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) กับ ประกันวินาศภัยจาก บมจ.เทเวศประกันภัย  และอื่นๆ ส่วนเรื่องของธุรกิจภายใต้ ไทยพาณิชย์ โพรเทค คาดจะเริ่มได้ในปลายไตรมาสสามของปีนี้”

นางสาวปรมาศิริ กล่าวต่อว่า เป้าหมายสำคัญของบริษัท คือ อยากเห็นคนไทยมีความคุ้มครองและเข้าสู่การออมอย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทุกความไม่แน่นอนในอนาคต จึงต้องการเน้นในเรื่องการเข้าถึงลูกค้าเป็นลำดับแรก ดังนั้น ขนาดของเบี้ยประกันจากไทยพาณิชย์ โพรเทคจะเล็กกว่าช่องทางอื่นๆ ของธนาคาร ซึ่งช่วงแรกของการสร้างทีม Protect Consultant จึงตั้งเป้าไว้ว่า ควรเข้าถึงลูกค้าในแต่ละเดือนได้มากกว่าตลาดอย่างน้อย 5 เท่า เมื่อเทียบกับตัวแทนที่ขายประกันที่เฉลี่ยมีการเข้าถึงลูกค้าประมาณ1.7 รายต่อเดือน ดังนั้น หน้าที่ของบริษัทในการขยายสู่ตลาดแมส คือ การทำแพ็คเกจความคุ้มครองในสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ บริษัทจึงให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องการมีระบบที่ดีเพื่อช่วยในการขายและการบริการ การอบรมพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครอง และความเข้าใจในลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป โดยมุ่งหวังว่า บริษัทจะมีส่วนช่วยเติมเต็มให้คนไทยเข้าถึงประกันทุกรูปแบบได้สะดวก และคุ้มค่าที่สุด โดยอยากเห็นคนไทยมีอัตราการเข้าถึงประกันเพิ่มขึ้นให้มากที่สุดปัจจุบันที่มี 30%

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน