“Dare to Give พิชิตโลหิต 1 ล้านซีซี” ภารกิจต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์

 

ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับแคมเปญ “Dare to Give พิชิตโลหิต 1 ล้านซีซี” ที่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย รณรงค์และกระตุ้นให้บุคลากรไทยประกันชีวิต รวมถึงประชาชนทั่วไป ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็น “ผู้ให้” ด้วยการบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน โดยมีเป้าหมายในการจัดหาปริมาณโลหิตให้ได้ 1,000,000 ซีซี ภายในปี 2563 โดยในปัจจุบันสามารถจัดหาปริมาณโลหิตผ่านแคมเปญได้ถึง 1,214,400 ซีซี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

แคมเปญดังกล่าวสอดคล้องกับ Core Value ในการดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิต ที่เชื่อมั่นต่อการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ พัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม บนพื้นฐานการตระหนักถึงคุณค่าชีวิต คุณค่าความรัก และคุณค่าของมนุษย์ (Value of Life, Value of Love & Value of People) ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทยมาอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการรณรงค์บริจาคโลหิต และอาสาสมัครบริจาค Stem Cell ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติแล้ว ยังสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ ภายใต้สภากาชาดไทย อาทิ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ด้วยการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์การรับบริจาคอวัยวะ การจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับศูนย์ดวงตา รวมถึงการบริจาคสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สำหรับการรณรงค์รับบริจาคโลหิต บริษัทฯ กำหนดเป็นภารกิจที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน และสามารถจัดหาปริมาณโลหิตสำรองได้แล้วรวมกว่า 20 ล้านซีซี

อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมรณรงค์และกระตุ้นการบริจาคโลหิตกว่า 30 ปีที่ผ่านมา พบปัญหาสำคัญคือ มีคนจำนวนมากที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่สามารถบริจาคโลหิตได้ แต่ไม่เคยบริจาคโลหิตเลยเพราะ “ความกลัว” ขณะที่คนส่วนใหญ่ที่เคยบริจาคโลหิต มักบริจาคตามวาระหรือเฉพาะวันสำคัญเท่านั้น

ข้อมูลจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติบ่งชี้ว่า ประเทศไทยมีผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำเพียง 3% จากประชากรทั้งหมด ในจำนวนนี้ 60% เป็นผู้บริจาคโลหิตปีละครั้ง ส่วนผู้บริจาคโลหิตสม่ำเสมอทุก 3 เดือนมีเพียง 8% ซึ่งศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมีเป้าหมายรับบริจาคโลหิต 2,000-2,500 ยูนิตต่อวัน แต่ในความเป็นจริง มีปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาคเพียงวันละ 1,000-1,500 ยูนิตต่อวัน ทำให้เกิดเป็นภาวะขาดแคลนโลหิตสะสม ส่งผลให้ปริมาณโลหิตในคลังไม่เพียงพอสำหรับจ่ายแก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ

“แคมเปญ ‘Dare to Give พิชิตโลหิต 1 ล้านซีซี’ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นการบริจาคโลหิตและบริจาคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตคงคลัง ประกอบกับในปีนี้เราต้องเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้สภากาชาดไทยเกิดภาวะขาดแคลนโลหิตอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถรับบริจาคโลหิตได้ตามปกติ ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงปรับรูปแบบกิจกรรมโดยมุ่งเน้นสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริจาคโลหิต พร้อมขยายพื้นที่จัดกิจกรรมไปยังสถานศึกษา คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และสถานที่อื่นๆ ได้แก่ สาขารัตนาธิเบศร์ และสาขาบางนา เพื่อลดความแออัดของจำนวนผู้บริจาค ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งจากพนักงานและบุคลากรฝ่ายขายไทยประกันชีวิต ตลอดจนนักศึกษา ประชาชนทั่วไป ทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายในเวลาอันรวดเร็ว” นางดวงเดือน คงคาสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าว

ด้านนายทัพพสาร ต้นยวด ผู้แสดงความจำนงบริจาคโลหิตครั้งแรก เปิดใจว่า “ดีใจที่มีโอกาสบริจาคเลือดเป็นครั้งแรกในชีวิตกับแคมเปญนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยบริจาคเพราะความกลัว ซึ่งเราก็ผ่านความกลัวนั้นไปได้ เพราะคิดว่าเราได้ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น โดยเฉพาะคนป่วยหรือคนที่ประสบอุบัติเหตุที่จำเป็นต้องใช้เลือดในการรักษาชีวิต ถือเป็นการทำบุญที่ทำได้ง่ายๆ และจากนี้ไปถ้ามีโอกาสก็จะบริจาคเลือดให้ได้ทุก 3 เดือน”

นายเจริญพันธ์ จีนาคม หนึ่งในผู้บริจาคโลหิตในแคมเปญฯ กล่าวว่า “ครั้งนี้เป็นการบริจาคเลือดครั้งที่ 74 ซึ่งปกติจะออกกำลังกาย รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยก่อนบริจาคทุกครั้งจะเตรียมตัวล่วงหน้า ด้วยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมที่สุด ซึ่งการบริจาคเลือดเป็นประจำ ไม่เพียงได้ช่วยเหลือชีวิตคน แต่ยังช่วยให้ตัวเราเองสุขภาพดีและมีความสุขอีกด้วย”

แม้แคมเปญ “Dare to Give พิชิตโลหิต 1 ล้านซีซี” ประจำปี 2563 จะดำเนินการครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ และประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แต่ไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นสานต่อการเป็นองค์กรเพื่อสังคม พร้อมสนับสนุนให้บุคลากรเป็นผู้ให้ด้วยการเป็นจิตอาสา เพื่อก้าวสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต (Life Solutions) สำหรับลูกค้าและคนไทยอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน