โคโรน่าไวรั ทำธุรกิจสายการบินสูญมูลค่าตลาด 8,000 – 11,000 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยเปิดเสรีน่านฟ้า สายการบินหน้าใหม่ก็เข้ามาในตลาดไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเหตุให้การแข่งขันทวีความรุนแรงมากขึ้น จนทำให้ธุรกิจสายการบินต้องเผชิญโจทย์ท้าทายอย่างหนัก เนื่องจากการแข่งขันตัดราคาจนอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาวะดีมานด์การเดินทางโดยเครื่องบินเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2562 เหลือเพียง 3.14 แสนล้านบาท  ล่าสุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวไรโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน ก็อาจส่งผลให้ดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ภายใต้กรอบสมมุติฐานว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนจะมีระยะเวลาเพียงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อ(1) จำนวนนักเดินทางจีนที่มาไทย (2) จำนวนนักเดินทางไทยที่ไปจีน (3) จำนวนนักเดินทางต่างชาติอื่น ๆ ที่มาไทย ดังต่อไปนี้

                (1) จำนวนนักเดินทางจีนที่มาไทย โดยเฉลี่ย 70% เป็นนักท่องเที่ยว 30% เป็นนักธุรกิจ ซึ่งผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสต่อการเดินทางเพื่อทำธุรกิจมองว่ามีไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาเที่ยวไทยเสียมากกว่า ในช่วงตรุษจีนปี 2562 (เดือนกุมภาพันธ์) มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย 1.06 ล้านคน และในเดือนอื่น ๆ เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเดือนละประมาณ 9 แสนคน จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกทัวร์จีนทั้งหมด จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยในช่วงเดือนตรุษจีน (ปลายเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์) ปีนี้ลดลงประมาณ 50% หรือ 550,000 คน ในเดือนแรก และสถานการณ์จะค่อย ๆ คลี่คลายลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในที่สุด ซึ่งจะทำให้อัตราอัตราบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินในไทยสำหรับเที่ยวบินไทย-จีน ลดลงเหลือ 40% – 50% ในช่วงไตรมาสแรก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินมาไทยจะลดลงรวมตลอดทั้งปีประมาณ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดที่มาในปี 2562 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 1.1 ล้านคน หรือคิดเป็นผู้โดยสารที่มาใช้บริการสนามบินในไทยลดลง 2.2 ล้านคนเที่ยว ประกอบกับ สายการบินในไทยมีส่วนแบ่งตลาดเที่ยวบินระหว่างไทย-จีน คิดเป็นประมาณ 30% – 40% ของมูลค่าตลาด ดังนั้น มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินที่สูญเสียไปจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นมูลค่า 4,300 – 5,800 ล้านบาท

                (2) จำนวนนักเดินทางไทยที่ไปจีน ประมาณ 70% เป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งมีจำนวนประมาณ 600,000 คนในปี 2562 หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 50,000 คน คาดการณ์ว่าผลกระทบในเดือนแรกจะทำให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปจีนลดลง 50% หรือ 25,000 คน และสถานการณ์ค่อย ๆ คลี่คลายจนกลับสู่สภาวะปกติในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปจีนจะลดลงรวมตลอดปีประมาณ 50,000 คน รวมกับนักธุรกิจไทยที่คาดว่าจะเดินทางไปจีนลดลงประมาณ 5,000 คน คิดเป็นผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินในไทยลดลง 55,000 คน หรือ 110,000 คนเที่ยว ประกอบกับ สายการบินในไทยมีส่วนแบ่งตลาดเที่ยวบินระหว่างไทย-จีน คิดเป็นประมาณ 30% – 40% ของมูลค่าตลาด ดังนั้น มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินที่สูญเสียไปจากกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยคิดเป็นมูลค่า 300 – 400 ล้านบาท

                (3) จำนวนนักเดินทางต่างชาติอื่น ๆ ที่จะมาไทย แล้วเปลี่ยนใจไปท่องเที่ยวที่อื่น เพราะเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ คือ นักท่องเที่ยวจากยุโรป นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก (ไม่รวมจีน) นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจะมีแนวโน้มทรงตัวในปีนี้ ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้เดินทางมาไทยรวมประมาณ 14.88 ล้านคน ส่วนปีนี้ประมาณการเดิมคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 2% หรือคิดเป็นประมาณ 15.17 ล้านคน แต่เมื่อเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะลดลง 5% ในไตรมาสที่ 1 ก่อนที่จะกลับมาเติบโตที่ 2% เหมือนเดิมในช่วง 9 เดือนที่เหลือของปี จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 14.85 ล้านคนในปีนี้ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ลดลงจากประมาณการเดิมประมาณ 320,000 คน หรือ ประมาณ 640,000 คนเที่ยว ประกอบกับ สายการบินในไทยมีส่วนแบ่งตลาดของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คิดเป็นประมาณ 25%-35% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ดังนั้น มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินที่สูญเสียไปจากนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น ๆ คิดเป็นมูลค่า 3,100 – 4,400 ล้านบาท  

                กล่าวโดยสรุป ในปี 2563 มูลค่าธุรกิจสายการบินจะยังหดตัวลงอีก 4.3% – 6.2% เหลือมูลค่าเพียง 2.94-3.00 แสนล้านบาท และค่าเฉลี่ยของอัตราบรรทุกผู้โดยสารจะลดลงเหลือ 72.0% – 73.4% ซึ่งโดยปกติ สายการบินในไทยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 80% นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะทำให้ธุรกิจสายการบินสูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 8,000 – 11,000 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

 

 

                อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์มูลค่าธุรกิจสายการบินนี้ ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะมีระยะเวลาเพียงไตรมาสแรกของปีนี้ หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยาวนานมากกว่านี้ ก็อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อมูลค่าธุรกิจสายการบินในไทยมากกว่าที่ประมาณการไว้ ซึ่งทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะเฝ้าติดตามและอัพเดทสถานการณ์เป็นระยะ ๆ

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน