ส.ประกันชีวิตสิงคโปร์กางผลงานครึ่งปี เบี้ยใหม่หด  16.7%  มากสุดเป็นประวัติการณ์ “ ซิงเกิล พรีเมี่ยม “ ดร็อบแรงถึง 52%  เจอมรสุมรอบด้านทั้งเศรษฐกิจผันผวน  เงินเฟ้อ+ค่าครองชีพ+ดอกเบี้ยพุ่ง   อีกด้านก็มีข่าวดี กรมธรรม์เบี้ยรายปีโต 16.8% ขณะที่ประกันกลุ่มและสุขภาพโต 15%  นายกสมาคมฯชี้ ครึ่งหลังยังคงท้าทาย ปมใหญ่ศก.ยังไม่ฟื้น บริษัทประกันต้องปรับตัวมุ่งสู่ดิจิทัล เพิ่มความคล่องตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

เว็บไซต์  Insurance Business America รายงานว่า สมาคมประกันชีวิตสิงคโปร์  (LIA) ประกาศผลประกอบการอุตสาหกรรมประกันชีวิตในงวดครึ่งปีแรก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน   2566 มีเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ 2.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1ดอลลาร์สิงคโปร์ประมาณ25บาท) ลดลงถึง  16.7% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ  อัตราเงินเฟ้อและวิกฤติค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นส่งผลทำให้กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวหรือซิงเกิล พรีเมี่ยม(Single-premium )  ลดลงอย่างมากถึง 52% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  โดยมีเบี้ยประกันภัย 691 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม มีการเติบโตของกรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทเบี้ยประกันภัยรายปีที่เพิ่มขึ้น 16.8% ในไตรมาสที่ 2  หรือมีเบี้ยประกันภัย 807.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ที่มีเบี้ยประกันภัย  691.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ขณะที่เบี้ยประกันภัยกรมธรรม์ประกันชีวิตกลุ่มและสุขภาพยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 15% ในไตรมาสที่ 2 โดยมีเบี้ยประกันภัย 2.17 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน

สมาคมฯ กล่าวว่า เบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ที่หดตัวลงเกิดขึ้นท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจ(GDP) ที่ไม่แน่นอน โดยนักเศรษฐศาสตร์ได้ลดการคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีลงและอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการเติบโตของจีดีพีในช่วงที่เหลือของปีนี้   ขณะที่ความต้องการกรมธรรม์ประกันชีวิตซิงเกิล พรีเมี่ยมยังคงลดลง เนื่องจากสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจมหภาคยังคงผันผวนต่อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

อย่างไรก็ดี แม้จะมีปัจจัยลบมากมาย  แต่กรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทเบี้ยประกันภัยรายปียังคงมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเติบโตเพิ่มขึ้น 26.3% ในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565  มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

สำหรับจำนวนเงินเอาประกันภัย(ทุนประกันภัย)พบว่า  ในช่วงครึ่งปีแรก อุตสาหกรรมประกันชีวิตมีจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น  6.58 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์  เพิ่มขึ้น  3.8%  จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา  โดยตัวแทน ยังคงเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน  2.56  หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์  ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 38.9% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทั้งหมดในอุตสาหกรรม ตามมาด้วยตัวแทนที่เป็นปรึกษาทางการเงิน (FA)  มีจำนวนเงินเอาประกันภัย  2.34 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์  คิดเป็นสัดส่วน  35.6%   

สมาคมฯกล่าวอีกว่า มีชาวสิงคโปร์และผู้พำนักถาวรประมาณ 72,000 คนที่เป็นลูกค้ารายใหม่แผนประกัน integrated shield plans (IPs)  ซึ่งเป็นระบบประกันชีวิตของภาคเอกชน  โดย  ณ ปัจจุบัน   มีพลเมืองสิงคโปร์ 2.9 ล้านคน (71% ของประชากรทั้งหมด) ได้รับการคุ้มครองภายใต้แผน IP ซึ่งให้ความคุ้มครองนอกเหนือจาก MediShield Life ที่เป็นการประกันสุขภาพที่บริหารจัดการโดย Central Provident Fund Board (CPF) ของรัฐบาล เป็นการประกันสุขภาพตลอดชีวิตให้ชาวท้องถิ่น รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพขั้นร้ายแรงอยู่ก่อนแล้วโดยอัตโนมัติ (ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพขั้นร้ายแรงอยู่ก่อนจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เป็นระยะเวลา 10 ปี)

ในช่วงครึ่งปีแรก อุตสาหกรรมประกันชีวิตได้จ่ายเงิน 6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์และผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา    โดยการจ่ายเงินดังกล่าวประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการจ่ายเงินกรณีกรมธรรม์ครบสัญญา  5.16 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์  และอีก 838.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เป็นค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต โรคร้ายแรง หรือทุพพลภาพสำหรับความคุ้มครองในกรมธรรม์มากกว่า 9,900 ฉบับ

Dennis Tan นายกสมาคมฯ กล่าวว่า  “ในขณะที่เราเผชิญกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่ผันผวนโดยไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะบรรเทาลงเลย  อุตสาหกรรมประกันชีวิตก็ต้องยอมรับว่าต้องมีความคล่องตัว และยังคงรับฟังและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง  โดยอุตสาหกรรมประกันชีวิตจะยังคงสำรวจความคิดริเริ่มด้านดิจิทัลต่อไป ในขณะเดียวกันก็บ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถ โดยมุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า  ซึ่งเป้าหมายหลักของเรายังคงอยู่ที่การตอบสนองความต้องการทางการเงินและการคุ้มครองชุมชนในสิงคโปร์ ขณะเดียวกันก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและความท้าทายระดับโลกไปด้วย”

 

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน