สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชันแนล กรุ๊ป(AIG) แถลงว่า จะขายธุรกิจประกันภัยต่อเกือบทั้งหมดให้กับบริษัท เรอเนซองซ์รี โฮลดิ้งส์ เป็นเงินประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจาก ปีเตอร์ ซาฟฟิโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังคงพยายามที่จะลดขนาดบริษัทต่อไป

จากแถลงการณ์ของ AIG เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม  เรอเนซองซ์รีจะจ่ายเป็นเงินสด 2,740 ล้านดอลลาร์และอยู่ในรูปหุ้นสามัญมูคา 250 ล้านดอลลาร์ให้แก่บริษัท Validus Re , AlphaCat และ Talbot Treaty  ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยต่อของ AIG

 ธุรกรรมนี้จะเพิ่มเงินทุนให้ AIG ได้ 400 ล้านดอลลาร์ แต่ AIG จะยังคงถือหุ้น Talbot Underwriting และ Western World

เมื่อต้นเดือนนี้ AIG ได้ขายบริษัท  Crop Risk Services ซึ่งบริษัทได้ซื้อมาตามส่วนหนึ่งของข้อตกลงซื้อ บริษัท Validus เมื่อปี 2561 

ซาฟฟิโน กล่าวว่า การแถลงข่าวนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ AIG และมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับทั้ง AIG และ Validus Re   โดยสำหรับ AIG นั้น ข้อตกลงนี้ทำให้โมเดลธุรกิจของบริษัทง่ายขึ้นและลดความผันผวนในพอร์ตลงทุน  ของบริษัท  ในขณะเดียวกันก็สร้างสภาพคล่องเงินสดและประสิทธิภาพของเงินทุนที่ช่วยให้บริษัทสามารถเร่งกลยุทธ์ในการบริหารจัดการเงินทุนได้

ด้านเรอเนซองซ์รี คาดว่า AIG จะลงทุนจำนวนมาก ในธุรกิจ Capital Partners ซึ่งมีบริษัทกองทุน DaVinci Reinsurance และ Fontana Re รวมอยู่ด้วย

เควิน โอดอนเนลล์ ซีอีโอของเรอเนซองซ์รี กล่วว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้กลยุทธ์ของบริษัทมีความก้าวหน้าในฐานะที่เป็นบริษัทประกันภัยต่อทรัพย์สินและวินาศภัยชั้นนำระดับโลก   เพิ่มขนาด และเพิ่มความสำคัญให้แก่ลูกค้า และด้วยการเข้าถึงธุรกิจประกันภัยต่อขนาดใหญ่ที่น่าสนใจในสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในตลาด  คาดว่าจะเร่งตัวขับเคลื่อนกำไรสามประการ คือ รายได้จากการรับทำประกันภัย ค่าธรรมเนียม และรายได้จากการลงทุน

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน