ไดเอทแบบ “คีโตเจนิค” วิธีคุมน้ำหนักยอดฮิตชาว “อเมริกัน-ยุโรป”  

PHOTO CREDIT : www.onnit.com

เพิ่มเพื่อน

ในปัจจุบันมีสารพัดวิธีที่เราสามารถเลือกเพื่อใช้ในการ “ไดเอท” หรือการควบคุมน้ำหนัก หลายๆ คนยังเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายเป็นการช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้มากที่สุด แต่ความเป็นจริงก็คือ “การรับประทาน” ต่างหากที่สำคัญมากกว่าถึง 70% ต่อ 30% เลยทีเดียว

“คีโตเจนิค ไดเอท” (Ketogenic Diet) หรือที่หลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่า “กินแบบคีโต” แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนไทยเพราะเริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

การกินคีโต หรือ คีโตเจนิค ก็คือ กินหนักเน้นไขมันกับโปรตีน ที่สำคัญคือ “งด/ลดแป้งกับน้ำตาล” ที่บอกว่า “งดหรือลด” เพราะว่าสำหรับบางคนที่ติดหวานมากๆ หรือติดแป้งสุดๆ วิธีการกินแบบนี้สามารถกินได้ แต่ต้องไม่เกินวันละ 20 กรัมเท่านั้น ซึ่งเราสามารถใช้โปรแกรมจากแอพพลิเคชั่นมากมายช่วยคำนวนให้เราได้

ที่น่าสนใจก็คือ ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่นิยมกินแบบคีโต แต่ตอนนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว แม้แต่ “ชาวอเมริกัน และชาวยุโรป” กลุ่มคนที่กินอาหาร “ฟาสต์ฟู้ดส์” อย่างหนักหน่วงที่สุดในโลก โดยเว็บไซต์ “goodmorningamerica” ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยรายงานชิ้นหนึ่ง ซึ่งเขียนโดย “Katie Kindelan” ระบุว่า ในแต่ละปีประชากรชาวอเมริกัน และชาวยุโรปส่วนหนึ่ง มีความเสี่ยงสูงมากที่กลายเป็นผู้ป่วยโรคอ้วน ทั้งไขมันอุดตัน ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และต่างๆ นานา อันมีสาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมการกินทั้งสิ้น

ดังนั้น “คีโตเจนิค ไดเอท” จึงมาพร้อมกับเทรนด์ดูแลสุขภาพของโลกที่ตอบโจทย์กลุ่มคนอเมริกันและยุโรปมากที่สุดก็ว่าได้ โดยการไดเอทแบบคีโต เป็นวิธีการไดเอทที่เน้นกินอย่างหนักแค่ “ไขมัน-โปรตีน” และต้องลดหรืองด “แป้ง-น้ำตาล” ซึ่งจะทำให้ร่างกายไม่มี “คาร์โบไฮเดรต” ไปช่วยสร้างพลังงาน และในที่สุดร่างกายก็จะต้องดึงเอา “ไขมัน” ที่เรากินสะสมเข้าไป เอาออกมาใช้เป็นพลังงานแทน

มายา เฟลเลอร์ นักโภชนาการจากนิวยอร์กยืนยันว่า การกินแบบคีโตเจนิค จะช่วยให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตในร่างกายของเราค่อยๆ ลดลงไปทีละ 10% ในแต่ละวัน ซึ่ง 10% ที่ว่านี้ เราสามารถพบได้ใน “ขนมปังขาว 1 แผ่น” ลองคิดดูว่า มื้ออาหารของชาวอเมริกันหรือยุโรปส่วนใหญ่จะผูกติดอยู่กับ “ขนมปัง” มากมาย มาว่าจะเป็นจาก แฮมเบอร์เกอร์ หรือ ฮอตดอก หรือ แซนวิส ที่ต้องกินกันทุกเช้า รวมๆ แล้วปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เราได้รับจากพฤติกรรมการกินเหล่านี้จะสูงปี๊ดทีเดียว

“เพราะอะไรถึงได้รับความนิยมในหมู่คนอเมริกันและยุโรป” ก็เพราะว่ากลุ่มคนในประเทศแถบๆ นี้ โดเฉพาะ สหรัฐอเมริกา ชื่นชอบการทานเนื้อสัตว์มาก ทั้งเบคอน เนื้อติดมันต่างๆ โดยการกินแบบคีโต สามารถกินได้เช่นเคย เพียงแค่ลดแป้งจากแฮมเบอร์เกอร์ หรือ ฮอตดอกออกไปก็เท่านั้นเอง” เฟลเลอร์ยังกล่าวสรุปง่ายๆ อีกว่า คีโตฯ ที่ชาวอเมริกันนิยมใช้ก็คือ ไขมัน 75% โปรตีน 20% และคาร์โบไฮเดรต 5%

สิ่งสำคัญที่ต้องเตือนตัวเองนอกจากต้องไปศึกษาดีๆ ว่าอาหาร พืชผักอะไรบ้างที่อยู่ในหมวดหมู่ต้องห้าม เช่น พืชประเภทหัว อย่าง แครอท มันฝรั่ง มันเทศ ที่ชาวอเมริกันชอบกินนั้น ก็ไม่สามารถกินได้อีกต่อไป เพราะมีคาร์โบไฮเดรตด้วย

การกินแบบคีโตนี้ นอกจากเราจะได้สุขภาพที่ดีแล้วไม่พอแถมมากับหุ่นสวยๆ หล่อๆ การกินแบบนี้ยังช่วยรักษา ทั้งโรคเบาหวาน กรดไหลย้อน และโรคที่เกี่ยวกับสมอง เช่น ลมชัก ซึมเศร้า ไบโพลาร์ ดังนั้น ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานที่เหมะกับวีธีไดเอทแบบนี้ แฟนคลับคนรักสุขภาพก็น่าจะเหมาะมากๆ เหมือนกัน

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน