ผลวิจัยชี้ ง่วงตลอดเวลาเสี่ยง “หยุดหายใจระหว่างหลับ” 

Photo Credit: https://www.medicalnewstoday.com

การนอนหลับที่ไม่เต็มอิ่มนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ขณะที่ “การนอนกรน” ในระหว่างนอนหลับเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่พบได้โดยทั่วไปในปัจจุบัน จากภาวะต่างๆ ที่ผิดปกติในร่างกาย โดยส่วนใหญ่เกิดจาก ภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ และระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ

แต่สำหรับภาวะ “การหยุดหายใจ” ในขณะที่นอนหลับอาจไม่ใช่เรื่องที่คุ้นหูของคนไทยมากนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลกมากขึ้น

ในงานวิจัย Wisconsin Sleep Cohort Study ของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยงานวิจัยใหม่ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับโรคนอนหยุดหายใจชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA) โดยทำการศึกษาจากกลุ่มผู้ทดสอบ 1,522 คน อายุระหว่าง 30-60 ปี ทั้งหญิงและชาย และใช้เวลาในการติดตามผลทั้งหมด 18 ปี

โดยมีเกณฑ์ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคจากดัชนี apnea-hypopnea index (AHI) ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของการหยุดหายใจชั่วคราว (apneas) และการแผ่วลง (hypopneas) ต่อชั่วโมงของการนอนหลับของผู้ที่ถูกทดสอบ

ทั้งนี้ ผลที่ได้จากการทดสอบก็คือ กลุ่มคนที่พบว่ามีภาวะการหยุดหายใจแบบทันที ชนิดเรียกว่า “รุนแรง” ทำให้สมองขาดออกซิเจน ซึ่งจะส่งผลกระทบหลังจากที่ตื่นนอนทำให้มีอาการ “หลงลืมระยะสั้น” และไม่สดชื่น มีอาการหาวนอนอยู่ตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ การทดสอบในกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มที่มีภาวะการหยุดหายใจระยะสั้นและไม่รุนแรง พบว่า หลังจากที่ตื่นนอนไม่สดชื่นและมีอาการหาวนอน ซึมเศร้าเช่นเดียวกัน

ขณะที่ ศ.ดร.แทร์รี่ ยัง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน กล่าวว่า กลุ่มผู้ทดสอบมากกว่า 65พบว่ามีอาการสมาธิสั้น ถึงแม้ว่าไม่รุนแรงแต่ก็กระทบต่อการใช้ชีวิตได้ เช่น พวกเขาไม่สามารถแก้ปัญหาในเรื่องเล็กๆ หรือไม่มีความซับซ้อนได้ โดยจะมีความรู้สึกว่าปัญหาดังกล่าวมีขนาดใหญ่

อาจสรุปได้ว่า ผู้ป่วยโรค OSA หรือ หยุดหายใจระหว่างนอนหลับ มีความเชื่อมโยงกับ “สติปัญญา” หรือ การทำงานของสมองทั้ง IQ และ EQ ได้ง่ายกว่าคนปกติ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถรับมือกับปัญหาด้านสภาวะอารมณ์ได้ดีเท่ากับคนทั่วไป รวมไปถึง เป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดศีรษะหลังตื่นนอนตอนเช้าปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน และทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงตามไปด้วย

สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้ให้เงินทุนเพื่อศึกษาในครั้งนี้ ประเมินร่วมกันว่า โรค OSA เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน และโรคซึมเศร้า ที่สำคัญและรุนแรงที่สุด ก็คือ คนที่เป็นโรค OSA ดังกล่าว มีภาวะเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเร็วกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า

ทั้งนี้ ศ.ดร.แทร์รี่ ยัง ได้กล่าวถึงโรค OSA ด้วยว่า สำหรับคนที่รู้สึกว่านอนไม่พอ ไม่เต็มอิ่ม และง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยก็น่าจะตระหนักถึงภาวะการหยุดหายใจระหว่างนอนหลับและควรพบแพทย์ ส่วนข้อแนะนำเบื้องต้น อย่างเช่น การลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และการสูบบุหรี่ และพยายามจัดตำแหน่งท่านอนแบบตะแคง ซึ่งจะช่วยขยายทางเดินหายใจในช่องคอไม่ให้ตีบจนเกินไป

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน