คุณสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านเวที “อยากเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง” ครั้งที่ 11 กับกลยุทธ์ มั่นใจ ทันใจ วางใจ มาตรฐานบริการสินไหมทดแทน จากวิริยะประกันภัย ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศปัจจุบันมียอดขายรถใหม่ป้ายแดงลดลง อันเป็นผลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและความไม่มั่นใจในการตัดสินใจใช้รถยนต์ของประชาชน
“ปีนี้ประมาณการณ์รถใหม่จะเพิ่ม 800,000 คันเอาเข้าจริงๆ ตอนนี้จนถึงสิ้นปีนี้ ไม่แน่ใจว่าจะถึง 600,000 คันหรือไม่ ผู้ใช้ยังไม่มั่นใจว่าจะซื้อรถไฮบริดหรือซื้อรถอีวี เพราะฉะนั้นทิศทางของธุรกิจประกันภัยเราที่ตั้งเป้าไว้ก็จะขาดกันไปเล็กน้อย”
แต่วิริยะประกันภัยคาดว่า เมื่อถึงสิ้นปี 2567 ยังคงมีการเติบโตเบี้ยรับประกันภัยรวมได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ต้นปี 38,000 ล้านบาท ด้วยข้อมูลล่าสุด 10 เดือน ตั้งแต่มกราคมถึงตุลาคม บริษัทมีเบี้ยประภัยรวมทุกประเภทอยู่ที่ 33,214.46 ล้านบาท ขณะช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 อยู่ที่ 32,907.09 ล้านบาท
มาจากเบี้ย Non-Motor 3,761.50 ล้านบาท เป็นอัคคีภัย 275.99 ล้านบาท ภัยทะเลและขนส่ง 463.42 ล้านบาท และเบ็ดเตล็ด 3,022.09 ล้านบาท และมาจากเบี้ยรวมรถยนต์ (Motor) 29,452.96 ล้านบาท เป็นประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 2,752.87 ล้านบาท ภาคสมัครใจ 26,700.09 ล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า EV 1,130 ล้านบาท ด้วยจำนวน 49,000 กรมธรรม์
อย่างไรก็ตามเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) ที่เติบโตราว 2 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนนี้มาจากลูกค้าเก่า (ป้ายดำ) ที่ต่อสัญญามากกว่า 80% ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าเดิมมีความมั่นใจ และวางใจ ในการให้บริการเคลมสินไหมของบริษัทเป็นสำคัญ
คุณสยม กล่าวถึงการให้บริการเคลมสินไหมรถยนต์ที่ผ่านมาของวิริยะประกันภัยว่า กรณีเคลมสดลูกค้าอยู่ในที่เกิดเหตุกับคู่กรณี บริษัทสามารถให้บริการได้อย่างทันใจจากศูนย์บริการทั่วประเทศ 98 แห่ง และจุดรอตรวจสอบที่มีอยู่กระจายทั่วทุกพื้นที่ทำให้พนักงานเคลมสามารถเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว จนลูกค้าวางใจในการให้บริการของพนักงานเคลมกว่า 2 พันคนจากพนังงานทั้งหมดของบริษัท 5.8 พันคนได้
แต่หากเป็นกรณีเคลมแห้ง ลูกค้าสามารถถ่ายภาพความเสียหายส่วนต่างๆ ของรถยนต์ผ่านวีดีโอ (VDO CALL) ให้กับพนักงานเคลมบริษัทได้จากที่บ้าน นับเป็นการให้บริการที่สะดวกสบายต่อลูกค้าอย่างยิ่ง และหลังจากที่ลูกค้าส่งรถยนต์เข้าซ่อม บริษัทยังได้จัดให้มีการติดตามบริการอะไหล่แทนลูกค้าพร้อมแจ้งความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะจนเสร็จสิ้นการซ่อมแต่ละครั้งอีกด้วย
“เราทำเคลมได้อย่างเร็วรวดมาก อย่างกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้รถนักเรียนเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักเรียนเสียชีวิต 20 ราย ครู 3 ราย เราสามารถจ่ายสินไหม 15 ล้านบาทจบภายในวันที่ 4 ตุลาคม และการเข้าไปช่วยลูกค้ารถยนต์ถูกน้ำท่วมและติดอยู่ในดินโคลนทางภาคเหนือช่วงสิงหาคมถึงตุลาคมที่ผ่านมาเราก็จัดส่งรถยกเข้าไปช่วยทั้งรถลูกค้าและรถชาวบ้านจนเสร็จรวมร่วม 1,300 คัน มีเคลมความเสียหายไป 197 ล้านบาท”
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทวิริยะฯ กล่าวสรุปว่า ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทจ่ายเคลมไปแล้วราว 600,000 เคลมสูงขึ้นจากปีก่อน 6% คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ประกันภัยรถยนต์ยังอยู่ที่ 57% บริษัทจึงยังคงอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ทั่วไปในราคาเดิม ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า EV อาจมีการปรับขึ้นในอนาคตด้วยปัจจุบันมีอัตราความเสียหายสูงกว่า 60% ไปแล้ว.-
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com