ชี้ทิศประกันเวียดนาม 2567 เปลี่ยนแปลงเชิงบวกหลังกฎหมายใหม่ใช้บังคับ คุมคนกลาง-แบงก์แอสชัวรันส์ คาดยกระดับธุรกิจโปร่งใส คนกลางเป็นมืออาชีพมากขึ้น  

เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า  Ngo Trung Dung  รองนายกสมาคมประกันภัยเวียดนาม (Vietnam Insurance Association (VIA)  ให้มุมมองเกี่ยวกับความคาดหวังและทิศทางของอุตสาหกรรมประกันภัยเวียดนามในปี 2567ว่า   จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมากมายเกิดขึ้นในตลาดประกันภัย

Ngo    กล่าวในบล็อกถามตอบบนเว็บไซต์ VIA  ว่า ณ สิ้นปี 2566  ภาครัฐได้ออกหนังสือเวียนฉบับที่ 67 แห่งกฎหมายธุรกิจประกันภัย( Circular 67 of the Insurance Business Law ) ที่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น อาทิ การกำกับการขายประกันภัยผ่านคนกลางประกันภัย โดยเฉพาะช่องทางธนาคารหรือแบงก์แอสชัวรันส์(Bancassurance)  เป็นต้น ซึ่งส่งเสริมความเปิดกว้าง ความโปร่งใส และความเป็นมืออาชีพ

“นี่เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจประกันภัยที่จะเปลี่ยนแปลงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และเป็นมืออาชีพมากขึ้น” เขากล่าว ซึ่งจริงๆแล้ว บริษัทประกันภัยหลายแห่งได้ทำการเปลี่ยนแปลงเชิงรุกก่อนที่ระเบียบดังกล่าวจะออกมา

เขากล่าวว่า “ตัวอย่างเช่น  บริษัท แมนูไลฟ์ เวียดนาม  ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566  บริษัทได้ทดสอบระบบการตรวจสอบข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติมและกระบวนการติดตามการออกกรมธรรม์ประกันภัยก่อนที่จะนำไปใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2567 ”

เขาเสริมว่า บริษัทประกันภัยอื่นๆ ก็มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมและทำให้การดำเนินงานเป็นแบบดิจิทัลเช่นเดียวกัน

Ngo   กล่าวถึงการปรับปรุงด้านอื่นๆ ที่จำเป็นในอุตสาหกรรมประกันภัยว่า “ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่บริษัทประกันภัยจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาไปสู่คุณภาพและความยั่งยืนมากขึ้นเป็นลำดับแรก”

เขากล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีความคิดเห็นออกมามากมายว่า  เนื้อหาในกรมธรรม์ประกันภัยนั้นยาวและเข้าใจยาก โดยส่วนตัว เห็นว่าเนื่องจากกรมธรรม์ประกันภัยเป็นสัญญาประเภทหนึ่ง จึงต้องเป็นภาษากฎหมายที่มีข้อกำหนดโดยละเอียดมากมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นสัญญาที่ยาวและมีถ้อยคำที่สับสน ซับซ้อนจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันภัยสามารถมุ่งเน้นไปที่การลดความซับซ้อนของภาษาในสัญญาประกันภัยเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น

“ควรจะต้องปรับปรุงคุณภาพของตัวแทนด้วย การคัดเลือกตัวแทนและการฝึกอบรมควรมีความเข้มงวดและระมัดระวังมากขึ้น  โดยองค์กรต่างๆ สามารถใช้การทดสอบภายในภาคบังคับเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบและประเมินคุณภาพของตัวแทนได้  การกำหนดเป้าหมายอัตราการต่ออายุ และสร้างดัชนีความพึงพอใจของลูกค้าเพื่อส่งเสริมให้ตัวแทนมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของการให้บริการแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การขาย”

Ngo ยังกล่าวอีกว่า การบริการและการดูแลลูกค้าจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปมากขึ้นเช่นกัน   โดยธุรกิจประกันภัยจำเป็นต้องมีโปรแกรมและช่องทางที่ลูกค้าจะติดต่อกับบริษัทประกันภัยหลากหลายช่องทาง  นอกจากนี้ บริษัทประกันภัยจำเป็นต้องมีทีมที่ปรึกษามืออาชีพที่จะให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้า ‘กำพร้า’ หรือกลุ่มลูกค้าที่ตัวแทนลาออกไปแล้ว

“เมื่อธุรกิจมีความโปร่งใสและยกระดับตนเอง ลูกค้าจะเชื่อและตระหนักถึงคุณค่าของการประกันภัย” เขากล่าว ในตอนท้าย

อนึ่ง เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงการคลังเวียดนามได้เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับกิจกรรมตัวแทนประกันภัยมากขึ้นหลังจากมีลูกค้าได้ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับกลยุทธ์การขายที่ไม่ถูกต้องของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์  โดยกฎระเบียบต่าง ๆที่มีความเข้มงวดมากขึ้น  อาทิ การกำหนดให้ต้องมีการบันทึกวิดีโอขั้นตอนการให้คำปรึกษาด้านประกันภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยพ่วงการลงทุน( investment insurance products)  โดยบริษัทประกันภัยต้องให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยอย่างถ่องแท้ด้วย ,ไม่อนุญาตให้สถาบันปล่อยสินเชื่อหรือธนาคารให้คำปรึกษา แนะนำ เสนอขาย หรือจัดทำสัญญาประกันภัยควบการลงทุนภายใน 60 วันก่อนและ 60 วันหลังนับจากวันที่ลูกค้าเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารเสร็จสิ้น เป็นต้น

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน