Insure World : ปี’67 ประกันญี่ปุ่น”กำไรแข็งแกร่ง” ระวัง!ความเสี่ยงตลาดเงินกระทบกองทุน

“ฟิทช์ เรตติ้งส์” ทำนายแนวโน้มตลาดประกันภัยญี่ปุ่นปี2567 กำไรรับประกันภัยยังคงแข็งแกร่งหลังเคลมโควิดค่อยๆ หมดไป เผยบริษัทประกันวินาศภัยได้อานิสงส์ขึ้นเบี้ยประกันทรัพย์สิน เตือนรับมือภัยธรรมชาติ ชี้ความเสี่ยงในตลาดเงินส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเงินกองทุนบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย

เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า บริษัท ฟิทช์ เรตติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลกได้ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมประกันภัยของญี่ปุ่นในปี 2567 ในรายงาน “แนวโน้มการประกันภัยของญี่ปุ่นปี 2567 :Japanese Insurance 2024 Outlook ” ว่า ปัจจัยพื้นฐานในการรับประกันภัยของบริษัทประกันภัยของญี่ปุ่นทั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยมีแนวโน้มจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ สาเหตุหลักมาจากการเคลมค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากโควิด-19 ส่งผลกระทบน้อยลง

ฟิทช์ เผยว่า บริษัทประกันชีวิตของญี่ปุ่นประสบกับภาวะที่ยากลำบากอย่างมากทีเดียวจากการจ่ายสินไหมทดแทนจำนวนมากที่เกิดจาก “การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล” เนื่องจากมีเอาประกันภัยจำนวนมากที่ล้มป่วยเนื่องจากโรคติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่ติดต่อง่าย และลุกลามไว

สถาณการณ์ข้างต้นส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทประกันชีวิตลากยาวจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2566 ก่อนที่จะหยุดลงหลังจากรัฐบาลได้เปลี่ยนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2566 ทำให้รายได้จากการรับประกันภัยของบริษัทประกันชีวิตของญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นในกลางปี 2566

ฝั่งบริษัทประกันวินาศภัยก็มีแนวโน้มที่จะบรรลุผลกำไรจากการรับประกันภัยภายในประเทศอย่างเพียงพอเช่นกันในปี 2567 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กอปรกับผู้เล่นในตลาดนี้มีอยู่ไม่กี่ราย อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันวินาศภัยจะต้องเตรียมรับมือกับความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างมีนัยสำคัญในญี่ปุ่น

ฟิทช์ เชื่อว่า ในปี 2567 บริษัทประกันชีวิตของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่นระยะยาวต่อไป แทนที่จะลงทุนในพันธบัตรต่างประเทศที่มีต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นและต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนก็เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยของบริษัทประกันชีวิตในญี่ปุ่นที่เกิดจากระยะเวลาครบกำหนดที่ไม่ตรงกันของสินทรัพย์และหนี้สินจะลดลงอีก

อย่างไรก็ดี ฟิทช์ กล่าวว่า บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยของญี่ปุ่นยังคงมีความเสี่ยงอย่างมากต่อความเสี่ยงด้านตลาดการเงิน แม้ว่าพวกเขาจะรักษาระดับเงินทุนที่เพียงพอได้อยู่ก็ตาม โดยความตึงเครียดที่สำคัญๆ ในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดหุ้นในประเทศ ,พันธบัตรและสกุลเงินต่างประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อความเพียงพอของเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิตได้