Insure World : ประกันอ่วม!จ่ายแผ่นดินไหวญี่ปุ่น เคาะสินไหม 3.3 พันล้านเหรียญ

เปิดศักราชปีมังกร ประกันอ่วม!เจอแผ่นดินไหวรุนแรงที่ญี่ปุ่น “Verisk” บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ประมาณการยอดสินไหม 3.3 พันล้านเหรียญหรือกว่า1.1แสนล้านบาท

เว็บไซต์ AsiaInsuranceReview รายงานว่า บริษัท Verisk ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า พลานุภาพของแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.5 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในเมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิกาวะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันขึ้นปีใหม่ 1มกราคม 2567ที่ผ่านมา น่าจะสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมประกันภัย ประเมินความเสียหายจากการประกันภัยทรัพย์สินอยู่ระหว่าง 2.60-4.80 แสนล้านเยน ( 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ-3.3พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

แผ่นดินไหวดังกล่าวถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นบนคาบสมุทรโนโตะนับจากที่เริ่มมีการจดบันทึกเมื่อปี 2428 (ค.ศ.1885) หรือ 139ปีก่อน

จากการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey :USGS) พบว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนแบบตื้นกลับในเปลือกโลก โดยญี่ปุ่นเป็นภูมิภาคที่เกิดแผ่นดินไหวมากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นแปซิฟิกมุดตัวอยู่ใต้ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นบนชายฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งการเสียรูปของเปลือกโลกที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกที่กว้างขึ้นจะเกิดในรอยเลื่อนตื้น โดยแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งครั้งนี้ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงบนบกและก่อให้เกิดสึนามิ

USGS ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้ว่าแผ่นดินไหวจะเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่น แต่ภูมิภาครอบๆ แผ่นดินไหวที่คาบสมุทรโนโตะก็มีอัตราการเกิดแผ่นดินไหวที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับแนวชายฝั่งตะวันออก อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2443(ค.ศ.1900 ) เป็นต้นมา มีแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูดและขนาดใหญ่กว่า 6.0 แมกนิจูด เกิดขึ้น 30 ครั้งภายในรัศมี 250 กิโลเมตร นับจากเหตุการณ์วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

แผ่นดินไหวที่คาบสมุทรโนโตะทำให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างรอบๆ และทางใต้ของศูนย์กลางแผ่นดินไหว ในขณะที่ความเสียหายหนักส่วนใหญ่เกิดขึ้นในจังหวัดอิชิคาวะ โดยเฉพาะเมืองวาจิมะและทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ตามมา ซึ่งความเสียหายจากการสั่นไหวของพื้นดินและการกลายเป็นของเหลวพบได้ในจังหวัดอื่นๆ ด้วย เช่น นิงะตะ และโทยามะ เป็นต้น โดยคลื่นสึนามิสูงกว่า 1 เมตร ท่วมอาคารหลายแห่งตามแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะในเมืองวาจิมะ เมืองซูสุ และเมืองโนโตะ

รหัสการก่อสร้างอาคารในญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในรหัสที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก และมีการนำไปใช้และปฏิบัติอย่างดีมาตั้งแต่ปี 2524( ค.ศ.1981 ) ซึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่คาบสมุทรโนโตะในครั้งนี้ ข้อกำหนดเกี่ยวกับรหัสแผ่นดินไหวนั้นสูงกว่าข้อกำหนดทางตอนใต้ของญี่ปุ่นที่ไม่ได้เกิดแผ่นดินไหว

สำหรับประมาณการความเสียหายของบริษัทประกันภัยตามแบบจำลองของ Verisk ไม่ได้พิจารณาความเสียหาย:

ความเสียหายของทรัพย์สินที่ไม่มีประกันภัย, ความเสียหายต่อที่ดิน,ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน,ความเสียหายต่อรถยนต์,ความเสียหายจากการหยุดชะงักทางธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม( Business interruption :BI) ความเสียหายจากการจ่ายค่าชดเชยคนงาน, ความเสียหายจากความเสี่ยงด้านวิศวกรรมโยธา (ทางรถไฟ) ความเสี่ยงด้านการขนส่งสินค้าทางทะเลและตัวเรือ ความเสี่ยงด้านการบิน, ความเสี่ยงด้านคลังสินค้าขนส่ง ความเสี่ยงทั้งหมดที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และความเสี่ยงจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล , ค่าปรับขาดทุนและความเสียหายจากภัยที่ไม่ใช่แบบจำลอง เช่น ดินถล่ม เป็นต้น

ขณะที่ความต้องการหรืออุปสงค์พุ่งสูงขึ้น ได้แก่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งต้นทุนด้านวัสดุ บริการ และแรงงานเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ

มีรายงานว่า แผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนี้ คาดการณ์ว่า ยอดรวมผู้เสียชีวิตในท้ายที่สุดอาจจะสูงมากถึง 100 ราย

หากเปรียบเทียบกับเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในตุรกีเมื่อปีที่ผ่านมา จะพบว่า พิบัติภัยทางธรรมชาติทั้งในตุรกีและญี่ปุ่นครั้งล่าสุดมีความคล้ายคลึงกันในแง่การปลดปล่อยพลังงานออกมา แต่ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีและซีเรียสูงกว่า 50,000 ราย และหากย้อนกลับไปยังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.0 แมกนิจูดในเฮติเมื่อปี 2553(ค.ศ.2010 ) มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000 ราย สะท้อนถึง “การเตรียมการรับมือ”ที่ดีของญี่ปุ่น