เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า บริษัท เอเอ็ม เบสท์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกให้มุมมองถึงทิศทางอุตสาหกรรมประกันภัยในเวียดนามว่า  การแก้ไขกฎหมายที่มีสาระสำคัญว่าด้วยการปรับปรุงการจำหน่ายและการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านช่องทางธนาคารหรือแบงก์แอสชัวรันส์( Bancassurance ) คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของยอดขายประกันภัยในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยภาคธุรกิจประกันชีวิตจะได้รับผลกระทบมากกว่าธุรกิจประกันวินาศภัย

                เอเอ็ม เบสท์ สะท้อนความเห็นข้างต้นในรายงาน หัวข้อ  “เพิ่มการตรวจสอบกฎระเบียบแบงก์แอสชัวรันส์จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกันภัยเวียดนาม” ระบุถึงการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยสถาบันให้สินเชื่อที่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงพฤติกรรมทางการเงินและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในช่องทางขายประกันภัยผ่านธนาคารคืนกลับมา โดยออกกฎหมายใหม่มาบังคับใช้แทน

ภายใต้กฎหมายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้จะมุ่งเน้นไปที่การกำกับสถาบันให้สินเชื่อที่ดำเนินธุรกิจในเวียดนามเป็นหลัก อาทิ ธนาคาร, สาขาธนาคารต่างประเทศ และบริษัทลีสซิ่ง โดยเพิ่มข้อบังคับใหม่  ห้ามสถาบันให้สินเชื่อพ่วงการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ไม่ใช่ภาคบังคับไปกับบริการทางการเงินใดๆ ของสถาบันฯ  

เอเอ็ม เบสท์กล่าวว่า  กฎหมายใหม่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ทำให้ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยสามารถเลือกเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่พวกเขาต้องการในราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่จะส่งผลกระทบต่อบริษัทประกันภัยของเวียดนามในระยะสั้น

ศักยภาพแบงก์แอสชัวรันส์

Mr Ken Lau นักวิเคราะห์การเงินอาวุโสบริษัท เอเอ็ม เบสท์  กล่าวว่า  “แบงก์แอสชัวรันส์เป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญในเวียดนาม โดยเฉพาะธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งในปี 2565 ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์สร้างเบี้ยประกันชีวิตคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของเบี้ยประกันชีวิตทั้งระบบ ส่วนธุรกิจประกันวินาศภัย ช่องทางนี้มีสัดส่วน  14% ของเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งหมด ขณะที่บริษัทประกันภัยบางแห่งได้เบี้ยประกันจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ในสัดส่วนที่สูงกว่านี้มากเนื่องจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์หรือความร่วมมือขององค์กรกับกลุ่มธนาคาร””

ยอดขายประกันผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงก่อนจนถึงปี 2566 เนื่องมาจากความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างธนาคารและบริษัทประกันภัย อย่างไรก็ตาม มีการร้องเรียนจากลูกค้าธนาคารและบริษัทประกันภัยไปยังหน่วยงานกำกับเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการขายที่ไม่เป็นธรรม ส่งผลให้มีการตรวจสอบด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบตามมา  ทั้งนี้ รายได้เบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์อาจถึงจุดสูงสุดแล้ว เพราะหลังจากเกิดการร้องเรียน ธนาคารหลายแห่งรายงานว่ารายได้จากบริการประกันภัยลดลงเป็นตัวเลขสองหลักในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566 เทียบกับในช่วงเดียวกันของปี2565

เอเอ็ม เบสท์เผยว่า ผลกระทบดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมประกันภัยในวงกว้าง ทำให้เบี้ยประกันลดลง 8.3% เหลือ 227 ล้านล้านเวียดนามดอง (9.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2566 ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบทศวรรษหลังจากการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักเป็นเวลาหลายปี 

สำนักงานสถิติทั่วไปแห่งเวียดนามประมาณการ การลดลงดังกล่าว สาเหตุหลักมาจากเบี้ยประกันชีวิตลดลง 12.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!.... เพิ่มเพื่อน