เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า  กองทุนประกันภัยแผ่นดินไหวที่อยู่อาศัยของไต้หวัน (Taiwan Residential Earthquake Insurance Fund (TREIF) เผยว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด7.4 ริกเตอร์ในเมืองฮัวเหลียน ประเทศไต้หวัน เมื่อเช้าวันที่3 เมษายนที่ผ่านมา  ข้อมูล  ณ วันที่ 8 เมษายน 2567 มีการยื่นเคลมประกันแล้วอย่างน้อย 472 ราย  มูลค่าความเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนอย่างน้อย 762 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน  (23.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) ( 1 ดอลลาร์ไต้หวัน ประมาณ1.14บาท)

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีของไต้หวัน

บริษัท กาย คาร์เพนเตอร์(Guy Carpenter ) ระบุในรายงานหัวข้อ “รายงานหลังเหตุการณ์ – แผ่นดินไหวที่ฮัวเหลียนในไต้หวัน” ว่า กองทุนฯ ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากการสูญเสียที่อยู่อาศัย ในขณะที่ความเสียหายในเชิงพาณิชย์จะได้รับการคุ้มครองภายใต้บริษัทประกันภัยเอกชน กรณีมีการทำประกันภัยไว้

รายงานดังกล่าวให้ความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบต่อความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ว่า ระดับความเสียหายที่สังเกตได้และจำนวนผู้เสียชีวิตค่อนข้างต่ำ  แม้ว่าแผ่นดินไหวจะมีขนาดรุนแรงมากก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ประชากรอาศัยอยู่ไม่หนาแน่นมากนัก และอยู่ห่างจากเมืองใหญ่ๆ อย่าง ไทเป ไถหนาน หรือเกาสง มากกว่า 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของอาคารถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในระดับสูงและการฟื้นตัวในไต้หวัน

ผลกระทบอื่นๆ ได้แก่:

  • มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 1,155 ราย
  • มณฑลฮัวเหลียนมีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นเมืองท่องเที่ยว ถือเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ ของไต้หวัน ซึ่งจากที่ฮัวเหลียงเคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 ทางรัฐบาลท้องถิ่น คาดการณ์ว่า จะใช้เวลา   2 เดือนกว่าที่อุตสาหกรรมการบริการจะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่า เฉพาะเดือนเมษายน เศรษฐกิจของเมืองจะเกิดความเสียหายประมาณ  3 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน
  • แม้ว่าโรงงานผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของไต้หวันจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง แต่โรงงานบางแห่งก็ได้หยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ต่างๆ และสามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่การประเมินความเสียหายต่อทรัพย์สินและการหยุดชะงักทางธุรกิจ (business interruption :BI) ยังคงดำเนินอยู่
  • อุตสาหกรรมหินในฮัวเหลียน ซึ่งมีชื่อเสียงด้านหินอ่อน หินชนวน และกระเบื้องคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศ ประสบความเสียหายประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ขณะที่ธุรกิจบางส่วน ยังคงอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี2561
  • บริษัทยาสูบและสุราไต้หวันได้รับความเสียหาย รวมถึงขวดแอลกอฮอล์แตกเกือบ 200,000 ขวดที่โกดังในโรงงานที่ฮัวเหลียน มีความเสียหายประมาณ  14 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน  โดยไลน์การผลิตจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในการฟื้นตัว
  • ความเสียหายภาคการเกษตรคาดว่าจะอยู่ที่ 80.96 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน โดยเกือบ 98% อยู่ในมณฑลฮัวเหลียน โดยความเสียหายที่ใหญ่ที่สุดได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเกษตรและการประมงของภาครัฐและเอกชน ขณะที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อพืชผลทางการเกษตรและปศุสัตว์มีไม่มากนัก

              กาย คาร์เพนเตอร์ ย้ำว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของประกันภัยแผ่นดินไหวทั้งหมด

สำหรับโครงการประกันภัยต่อของกองทุนฯ  ไม่มีความเสียหาย (loss-free) ใดๆเลยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯขึ้นในปี 2545 อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ฮัวเหลียนเมื่อเร็วๆ นี้ที่มีต่ออุตสาหกรรมประกันภัยเชิงพาณิชย์ในท้องถิ่นยังไม่ชัดเจน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง (high-tech sector) เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว อุตสาหกรรมจะใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ในการประเมินและจัดทำประมาณการความเสียหายที่เชื่อถือได้

ด้าน บริษัท CoreLogic ในสหรัฐอเมริกา  ประมาณการความเสียหายที่มีการทำประกันภัยไว้จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้จะอยู่ระหว่าง 0.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริษัท เอเอ็ม เบสท์( AM Best)  กล่าวว่า การเคลมประกันภัยแผ่นดินไหวไม่น่าจะเกินยอดเคลมที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเหมยหนงในไต้หวันเมื่อ ปี2559 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น มีรายงานว่ามียอดเคลม 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ2.16 หมื่นล้านบาท

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....