สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ได้ออกมาปกป้องการเรียกร้องของบริษัทที่จะให้แยกธุรกิจในเอเชียของ เอชเอสบีซี โดยระบุว่า บริษัทใส่ใจต่อผลตอบแทนในการลงทุนจากการถือหุ้นจำนวนมากในเอชเอสบีซีและยังระบุว่าบริษัทไม่ใช่นักลงทุนนักเคลื่อนไหว
เจสซิกา ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของผิงอัน กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมเกี่ยวกับแรงจูงใจในการเรียกร้องให้เอชเอสบีซีพิจารณาการแยกธุรกิจในเอเชียว่า การลงทุนในเอชเอสบีซีเป็นการลงทุนที่สำคัญและบริษัทได้ลงทุนมาเป็นเวลา 7 ปี แล้ว
“เราใส่ใจเกี่ยวกับผลตอบแทนในระยะยาว และเราไม่ใช่นักลงทุนนักเคลื่อนไหว”ตัน กล่าว
จากข้อมูลของเรฟฟินิทีฟ ผิงอันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของเอชเอสบีซี โดยถือหุ้นอยู่ 8.3% หรือประมาณ 10,300 ล้านดอลลาร์
ความเห็นของตันเป็นความเห็นครั้งแรกของผู้บริหารระดับสูงของผิงอันที่ได้ปกป้องการเรียกร้องดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผิงอันไม่ได้ตั้งใจที่จะละทิ้งจุดยืนนี้ แม้ว่าล่าสุด เอชเอสบีซีได้คัดค้านต่อการเรียกร้องให้แยกธุรกิจและพยายามที่จะให้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มจากผู้ถือหุ้น
เอชเอสบีซียังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแสดงความเห็นของตัน
เอชเอสบีซี เป็นธนาคารใหญ่สุดของยุโรป แต่มียอดขายและกำไรจำนวนมากในเอเชีย ผิงอันได้กดดันธนาคารเมื่อเดือนเมษายนให้สำรวจทางเลือกต่างๆ ซึ่งรวมถึงการจดทะเบียนธุรกิจในเอเชียเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น
การพัฒนานี้ ย้ำให้เห็นถึงความท้าทายที่ธนาคารอังกฤษต้องเผชิญในขณะที่พยายามหาทางจัดการกับความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐ อังกฤษ และจีน ท่ามกลางการโจมตีจากสมาชิกรัฐสภาของชาติตะวันตกเกี่ยวกับกิจกรรมของธนาคารในฮ่องกง
เอชเอสบีซี กล่าวว่าการแยกธุรกิจหมายถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นกับอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการแยกธุรกิจหรือควบรวมกิจการจะทำให้เกิดความเสี่ยงโดยทันที
แหล่งข่าวได้กล่าวว่า ผิงอันมีความเห็นว่า เอชเอสบีซีพูดถึงความเสี่ยงของการแยกธุรกิจเกินจริง
ความเห็นข้างต้นของตัน มีขึ้น หนึ่งวันหลังจากผิงอันรายงานว่า บริษัทมีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 60,300 ล้านหยวน จาก 58,000 ล้านหยวนในปีก่อนหน้า โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากที่กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกลดลงสองปีติดต่อกันเนื่องจากบริษัทมีความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นเงิน 54,000 ล้านหยวนในบริษัท ไชน่า ฟอร์จูน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินที่มีหนี้จำนวนมาก
อย่างไรก็ดี เบี้ยประกันภัยรวมของบริษัท ลดลง 2.5% เหลือ 283,600 ล้านหยวน เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีก่อนหน้า ในขณะที่จำนวนลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นจากปลายปีที่แล้ว 3.2% เป็น 122 ล้านคน
หุ้นผิงอันที่ซื้อขายในตลาดฮ่องก ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเช้าวันพุธที่ 24 สิงหาคม ขณะที่หุ้นของเอชเอสบีซี ปรับตัวลง 1%
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com