สมาคมประกันชีวิตอินโดนีเซีย (AAJI) เปิดเผยว่าเมื่อดูจากข้อมูลถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565  ชาวอินโดนีเซีย มีประกันชีวิต73.9 ล้านคนหรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 27%ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งมีอยู่มากกว่า 270 ล้านคน

ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จำนวนประชากรที่มีประกันชีวิตกลุ่มอยู่ที่ 51.96 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 12 เดือนก่อนหน้า 23.7%  ส่วนจำนวนประชากรที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตส่วนบุคคลคือ 21.94 ล้านคน เพิ่มขึ้น ประมาณ 0.6% เมื่อเทียบกับปลายเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

บูดี ทัมปูโบโลน นายกสมาคม AAJI กล่าวว่า ผลประกอบการของภาคประกันชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกียวกับการทำประกันส่วนบุคคลชี้ว่า ชาวอินโดนีเซียมีการตระหนักมากขึ้นว่าการทำประกันเป็นเครื่องมือสำหรับความคุ้มครองและการวางแผนทางการเงินในระยะยาว

นายกสมาคม AAJI ยังกล่าวว่า  โดยรวมแล้ว รายได้ของอุตสาหกรรมประกันได้รับแรงกดดันเพราะรายได้จากเบี้ยประกันที่ชำระแบบครั้งเดียวลดลง แต่รายได้จากเบี้ยประกันโดยทั่วไปที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.3% เป็น 49.7 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ชี้ว่าจริงๆแล้ว ประชาชนเข้าใจมากขึ้นถึงการทำงานของความคุ้มครองของประกันชีวิตในระยะยาว

นอกจากนี้ ภาวะเศรฐกิจที่ดีขึ้นในขณะนี้ในเกือบทุกภาคก็ได้ทำให้ภาคธุรกิจต้องการทำประกันมากขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครองพนักงานเช่นกัน

                โอกิ ปราสโตมิโยโย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OJK Non-Bank Financial Industry Supervision unit (IKNB) กล่าวว่าสายธุรกิจประกันชีวิตที่สร้างรายได้จากเบี้ยประกันสูงสุดคือแบบประกันที่เชื่อมโยงกับการลงทุน (PAYDI) หรือ แผนยูนิต-ลิงค์

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....