เอออนเผย ครึ่งปีแรกยอดเคลมภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลกพุ่งทะลุ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดเป็นปีที่4ในประวัติศาสตร์ ชี้ climate change ต้นตอพายุหมุนรุนแรง กระตุ้นภัยพิบัติทวีความรุนแรงสุดโต่งทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง วาตภัย ไฟป่า ตะลึง! 77% ของความเสียหายเกิดในสหรัฐอเมริกา จับตา!ครึ่งหลัง ฤดูเฮอริเคน ท่ามกลางความวิตกกังวลผลกระทบจากสภาพอากาศเปลี่ยน ยังคง ‘ดำเนินต่อไป‘
เว็บไซต์ Insurance Business America รายงานว่า บริษัท เอออน( Aon) โบรคเกอร์ประกันภัยชั้นนำของโลก เผย ความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจากพายุหมุนรุนแรงที่พัดถล่มสหรัฐอเมริกาอย่างหนัก ซึ่งคิดเป็น 70% ของความเสียหายหรือเคลมสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นทั่วโลกสำหรับอุตสาหกรรมประกันภัย แต่การทำความเข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อเหตุการณ์เหล่านี้ยังคงเป็นความท้าทายต่อไป
Michal Lörinc หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยพิบัติ กล่าวกับเว็บไซต์ Insurance Business America ว่า “สาเหตุหลัก” ที่ทำให้ความเสียหายในระบบประกันภัยเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากพายุหมุนรุนแรงยังคงเป็นปัจจัยทางประชากรและเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ดี แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลกระทบ แต่ก็ยังยากที่จะระบุว่า มีอิทธิพลต่อเหตุการณ์ลมอย่างไร
Lörinc กล่าวว่า “มีการวิจัยอย่างต่อเนื่องว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อเหตุการณ์เหล่านี้อย่างไร ซึ่งยังคงเป็นคำถามเปิดในความคิดของฉันอยู่ เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนพฤติกรรมของพายุรุนแรงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและพื้นที่อื่น ๆ อย่างแน่นอน ส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบในชั้นบรรยากาศที่พายุรุนแรงก่อตัว แต่เราไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่า ส่วนใดของความเสียหายจากพายุหมุนรุนแรงที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”
เอออนเผยตัวเลขสรุปการเกิดภัยพิบัติทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ว่า ความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่มีการทำประกันภัยไว้มีมูลค่าสูงถึง 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นปีที่มีค่าสินไหมทดแทนสูงที่สุดเป็นปีที่ 4 สำหรับธุรกิจประกันภัย
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ได้เผชิญกับภัยพิบัติจากสภาพอากาศรุนแรงที่เกิดขึ้นสองครั้งติดต่อกัน ทั้งพายุไซโคลน”เกเบรียล”และน้ำท่วมเมืองโอ๊คแลนด์ที่สร้างความเสียหายรวมกัน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรียถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายที่ใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวแก่อุตสาหกรรมประกันภัย ซึ่งมีมูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กระนั้นความเสียหายในแง่ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมประกันภัยจากเหตุการณ์นี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าประมาณ 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เอออนระบุว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั้งน้ำท่วม สภาพอากาศที่เลวร้ายในฤดูหนาว ภัยแล้ง วาตภัยในสหภาพยุโรป และไฟป่า ล้วนมีส่วนทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากแก่อุตสาหกรรมประกันภัยทั่วโลก
Lörinc กล่าวว่า ขณะที่การเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกับเหตุการณ์พายุหมุนรุนแรงยังคงเป็นปริศนา แต่ “การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ภัยที่เกิดขึ้นในบางภูมิภาคเลวร้ายลงอย่างแน่นอน”
“ตัวอย่างเช่น อุณหภูมิที่ร้อนจัดได้รับผลกระทบหลักจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ,คลื่นความร้อนกำลังแย่ลงเช่นเดียวกับฝนที่ตกหนักอย่างรุนแรงกำลังเลวร้ายลงในบางภูมิภาค เพียงแต่ว่า พายุหมุนรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่รู้จักในแง่นี้ ดังนั้นจึงมีผลกระทบแน่นอน แค่คุณไม่สามารถพูดได้อย่างแน่ชัดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นมีมูลค่าเท่าไหร่และอย่างไรเท่านั้น”
รายงานของเอออนระบุว่า โดยรวมแล้ว มากกว่า 3 ใน 4 (77%) ของความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีการทำประกันภัยทั่วโลกมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆในสหรัฐอเมริกา
Lörinc กล่าวว่า ความเสียหายที่มีการทำประกันภัยไว้ในสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 และสหรัฐฯจะยังคงครองอันดับต้น ๆ ในชาร์ตความเสียหายในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่นั้นน่าจะขึ้นอยู่กับฤดูพายุเฮอริเคนเป็นสำคัญ
นักพยากรณ์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโคโลราโดได้ทำนายว่า จะมีฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติกที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเกิดขึ้นอีกในปี 2566 โดยจะมีพายุเกิดขึ้น 18 ลูก พายุเฮอริเคน 9 ลูก รวมถึงพายุเฮอริเคนที่มีขนาดใหญ่ 4 ลูก
หลังจากเอออนเผยแพร่รายงาน ปรากฎว่า ในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในน่านน้ำนอกเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา มีรายงานว่า อุณหภูมิพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 101.1 องศา
ข้อมูลของ Lörinc บอกว่า เงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาของพายุหมุนเขตร้อนเป็นหนึ่งใน “ข้อกังวลหลัก” สำหรับนักพยากรณ์ที่มองไปยังช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงมาก นอกเหนือไปจากระดับน้ำแข็งรวมที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ในแอนตาร์กติก ถูกตั้งค่าสถานะว่า อาจเกี่ยวข้องกับพารามิเตอร์ในรายงานของเอออน
“น้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เราได้เห็นอุณหภูมิของมหาสมุทรที่สูงมาก มีคลื่นความร้อนเกิดขึ้นในขณะนี้ และคาดว่าจะดำเนินต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
Lörinc กล่าวว่า ความกังวลที่อาจเกิดขึ้นอีกประการหนึ่งคือฤดูไฟป่าในสหรัฐอเมริกา“ฤดูไฟป่าในสหรัฐฯ ยังไม่เริ่มจริงๆ มีกิจกรรมมากมายในแคนาดา ซึ่งยังคงดำเนินต่อไป”
ข้อมูลของสำนักงานประกันภัยแห่งแคนาดา( Insurance Bureau of Canada :IBC) เผยว่า แคนาดากำลังประสบกับฤดูไฟป่าเป็นประวัติการณ์ โดยพื้นที่มากกว่า 10 ล้านเฮกตาร์หรือมากกว่า 625ล้านไร่ ถูกเผาไหม้ อย่างไรก็ตาม ไม่รวมไฟป่า Tantallon ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจประกันภัยมูลค่า 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่เผาไหม้ลุกลามลงไปยังเขตชานเมือง Halifax ใน Nova Scotia ซึ่งเป็นเขตประชากรหนาแน่น ดังนั้น ความเสียหายของธุรกิจประกันภัยจึงถูกจำกัด
ณ สิ้นครึ่งปีแรกของปี 2566 ความเสียหายรวมของธุรกิจประกันภัยในแคนาดาตะวันออกคาดว่าจะอยู่ที่หลายร้อยล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งต่ำกว่าปี 2559ที่มีมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่เกิดจากไฟป่าในแคนาดารู้สึกได้ทั้งในแคนาดาและข้ามพรมแดนในสหรัฐอเมริกา“เรื่องนี้น่ากังวลเพราะคาดว่าสภาวะที่นำไปสู่ไฟป่าจะเลวร้ายลงในอนาคตพร้อมกับโลกที่ร้อนขึ้น” Lörinc กล่าวสรุป
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com