เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า บริษัท เอเอ็ม เบสท์ สำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินระดับโลกได้ออกรายงานฉบับใหม่ ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างต่อเนื่องในการรายงานทางการเงินเพื่อมุ่งไปสู่มาตรฐานใหม่ คือมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS) ที่กำลังดำเนินอยู่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีที่สำคัญซึ่งจำเป็นต้องมีการแบ่งส่วนการวิเคราะห์ประสิทธิภาพในตลาดการประกันภัยต่อ
รายงาน เรื่อง “IFRS 17 — Economic View Adds Complexity to Reinsurers’ Financial Statements” เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณามุมมองของเอเอ็ม เบสท์ ที่มีต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมการประกันภัยต่อทั่วโลกก่อนการประชุม Rendez-Vous de Septembre ที่จะจัดขึ้นที่เมืองมอนติคาร์โล ประเทศโมนาโกในเดือนกันยายนนี้
รายงานเผยว่า การรายงานงบการเงินภายใต้มาตรฐานใหม่ IFRS 17 ที่เริ่มใช้ในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตลาดการประกันภัยต่อมีความยากลำบากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยการเปลี่ยนแปลงไปสู่มาตรฐานใหม่ได้ยกเครื่องแนวทางเดิมในการวัดผลและรายงานผลการดำเนินงานด้านการประกันภัยอย่างสิ้นเชิง ตลอดจนมีการนำคำศัพท์ใหม่มาใช้ ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับบริษัทรับประกันภัยต่อในการจัดเตรียมงบการเงิน
Ms Antonietta Iachetta นักวิเคราะห์การเงินอาวุโสบริษัท เอเอ็ม เบสท์ กล่าวว่า” การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้งบการเงินไม่ว่าจะเป็นผู้ถือกรมธรรม์หรือผู้ลงทุน ทำความเข้าใจ ตีความ และเปรียบเทียบงบการเงินใหม่เหล่านี้”
IFRS 17 เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม ปี 2566 แม้ว่าผู้รับประกันภัยต่อในยุโรปและเอเชียบางรายจะนำมาใช้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าก็ตาม
ในอดีต อุตสาหกรรมการประกันภัยต่อได้พึ่งพาการวัดผลต่างๆ มากมายเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของผู้เล่นในตลาด อาทิ อัตรารายจ่ายรวม( combined ratios) ผลตอบแทนจากรายได้ (Return on Revenue:ROR) และผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้น( Return On Equity :ROE) เป็นต้น แม้ว่ามาตรวัดเหล่านี้จะยังคงใช้อยู่ภายใต้ IFRS 17 แต่ในกรณีส่วนใหญ่ มาตรวัดเหล่านี้ไม่สามารถเปรียบเทียบได้โดยตรงกับผู้รายงานตามมาตรฐาน GAAP ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ความสามารถในการเปรียบเทียบผลการรับประกันภัยโดยอิงตามค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายจึงลดลงอย่างมาก และลดลงอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้รับประกันภัยต่อเมื่อเทียบกับตลาดโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องรายงานเบี้ยประกันภัยรับรวมอีกต่อไป แต่ปัจจุบันรายได้รวม(กำไร)จะถูกบันทึกเป็นรายได้จากการให้บริการประกันภัยแทน
Mr Dan Hofmeister รองผู้อำนวยการ บริษัท เอเอ็ม เบสท์ ให้ความเห็นว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านๆมา มาตรฐาน IFRS 4 และ US GAAP มักถูกนำเปรียบเทียบกันและแม้กระทั่งนำมารวมกันเป็นมาตรฐานผสม วันนี้ บางคนอาจพยายามรวมและเปรียบเทียบงบการเงิน IFRS 17 และ US GAAP แต่การทำเช่นนั้นอาจทำให้สิ่งที่ตัวเลขบอกกับเรานั้นบิดเบือนไป”
ผลกำไร
Mr Hofmeister ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ผลกำไรโดยรวมคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญภายใต้ IFRS 17 อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจแตกต่างกันอย่างมากภายใต้มาตรฐานใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้รับประกันภัยต่อประกันชีวิต
“ภายใต้มาตรฐานใหม่ คาดหวังว่า เมื่อมีการให้บริการประกันภัยเป็นระยะเวลาหนึ่ง รายได้จะรับรู้ในงบกำไรขาดทุน ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดแนวโน้มรายได้ที่เสถียรยิ่งขึ้น สะท้อนถึงอัตราการดำเนินงานพื้นฐานได้ดีกว่า”
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com